ในประเทศสแกนดิเนเวีย ระบอบพระมหากษัตริย์มีความมั่นคงอย่างที่สุด เพราะระบอบพระมหากษัตริย์ไม่เคยเป็นปรปักษ์กับขบวนการประชาธิปไตย ไม่เคยยืนอยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการ แต่ได้ทำการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชนทั้งในปัญหาระหว่างประเทศและในปัญหาภายในประเทศ ประเทศสแกนดิเนเวียนับเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีพัฒนาการเป็นแบบฉบับ ทั้งพัฒนาการด้านการเมืองและพัฒนาการด้านเศรษฐกิจ ทำให้มีรัฐสวัสดิการในระดับสูงจนผู้คนเข้าใจกันว่าเป็นสังคมนิยม ในขณะเดียวกัน ระบอบพระมหากษัตริย์ก็มีความมั่นคงอย่างเป็นแบบฉบับด้วย
ในประเทศญี่ปุ่น เดิมทีระบอบพระมหากษัตริย์ไม่มีอำนาจการปกครองแบ่งออกเป็นแคว้นต่างๆ มีโชกุนเป็นผู้ปกครองโดยอาศัยพระนามของพระจักรพรรดิ ต่อมาโชกุนโตกูกาวารวมอำนาจไว้ได้แต่ผู้เดียว โชกุนอื่นขึ้นต่อโชกุนโตกูกาวา ซึ่งเป็นผู้แทนของขบวนการเผด็จการ
ปี ๑๘๖๗ พระจักรพรรดิมัตซุฮิโตทรงร่วมมือกับพวกซามูไรหนุ่มซึ่งอยู่ฝ่ายขบวนการประชาธิปไตย โค่นโชกุนโตกูกาวา ยกเลิกระบอบเผด็จการทหารสถาปนาระบอบประชาธิปไตยใช้ระบอบเปลี่ยนระบอบเศรษฐกิจศักดินาแห่งสมัยกลาง เป็นระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมแห่งสมัยใหม่ ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงเป็นประเทศอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว หมายความว่าพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นทรงนำขบวนการประชาธิปไตยทำการปฏิวัติประชาธิปไตยเป็นผลสำเร็จอย่างราบรื่น นี่คือเคล็ดที่ว่า เหตุใดระบอบพระมหากษัตริย์ในญี่ปุ่นสมัยใหม่ จึงมีความมั่นคงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
ในประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่เริ่มแรกที่ขบวนการประชาธิปไตยอุบัติขึ้น ระบอบพระมหากษัตริย์ในฝรั่งเศสยืนอยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการมาโดยตลอด และขบวนการประชาธิปไตยในฝรั่งเศสนับว่าเป็นขบวนการที่ก้าวหน้าที่สุดในบรรดาขบวนการประชาธิปไตยในยุโรป เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งแห่งต้นกำเนิดลัทธิประชาธิปไตย ใครๆ ก็รู้จักวอลแตร์ รุสโซ มองเตสกิเออ คุกบาสตีล อิสรภาพ สมภาพ ภราดรภาพ โรเบสเปียร์ มาราต์ดังตอง นโปเลียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในฝรั่งเศส
แต่ขบวนการประชาธิปไตยเติบโตขึ้นเพียงใด พระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสแห่งราชวงศ์บูรบองค์ โดยเฉพาะพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔, ๑๕ และ ๑๖ ก็ยิ่งแนบแน่นอยู่กับขบวนการเผด็จการเพียงนั้น ความโกรธเคืองของประชาชนต่อขบวนการเผด็จการ ที่การปกครองของพวกเขามีแต่นำมาซึ่งความทุกข์ยากเดือดร้อน ยังความไม่พอใจแก่ประชาชนต่อพระมหากษัตริย์ด้วย จึงเกิดการปฏิวัติของประชาชนอย่างรุนแรงขึ้นในปี ๑๗๘๙ เปลี่ยนระบอบพระมหากษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบพระมหากษัตริย์รัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจากพระมหากษัตริย์ยังคงยืนอยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการ และจะเสด็จหนีไปออสเตรียซึ่งพระมหากษัตริย์เปลี่ยนฝรั่งเศสจากราชอาณาจักรเป็นสาธารณรัฐ และลงมติสำเร็จโทษพระเจ้าหลุยส์ที่๑๖ ด้วย จากนั้นฝรั่งเศสก็ปกครองด้วยอำนาจปฏิวัติ ซึ่งเต็มไปด้วยความรุนแรงจนกระทั่งนโปเลียนยึดอำนาจและปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้าจักรพรรดิขยายการปฏิวัติประชาธิปไตยไปทั่วยุโรปและหมดอำนาจเมื่อแพ้สงครามวอเตอร์ลูปี ๑๘๑๕ จากนั้นราชวงศ์บูรบองค์ก็กลับคืนมาอีก พระเจ้าหลุยส์ที่๑๘ เป็นพระมหากษัตริย์อยู่จนถึงปี ๑๘๒๔ และสืบสันตติวงศ์โดยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๑๐ ซึ่งทรงไปยืนอยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการอีก จึงถูกโค่นด้วยการปฏิวัติปี ๑๘๓๐ พระเจ้าหลุยส์ฟิลลิปครองราชย์สมบัติต่อไป โดยหลานชายของนโปเลียน หลุยส์นโปเลียน ซึ่งสถาปนาสาธารณรัฐฝรั่งเศสขึ้นอีกในปี ๑๘๔๘ ครั้นถึงปี ๑๘๕๒ หลุยส์นโปเลียนก็ตั้งตัวเป็นจักรพรรดิ ครองราชย์มาจนถึงปี ๑๘๗๑ จึงสละราชสมบัติเพราะแพ้สงครามแก่รัสเซีย ฝรั่งเศสจึงเป็นสาธารณรัฐอีกครั้งหนึ่งมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนพระจักรพรรดินโปเลียนนั้นเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทำสงครามขยายลัทธิประชาธิปไตยอย่างมโหฬาร ถ้าไม่แพ้สงครามก็จะได้เป็นพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสจนสวรรคตและคงจะสืบสันตติวงศ์ตลอดมา และถ้าพระเจ้านโปเลียนที่๓ ไม่แพ้สงครามก็คงไม่สิ้นสถาบันพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส ที่กล่าวมานี้เพื่อแสดงให้เห็นว่ามหาปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแบบฉบับของการปฏิวัติประชาธิปไตยนั้น ในช่วงเวลาหลายสิบปีแห่งการปฏิวัติยังคงดำรงสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้การทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์มิใช่จุดสำคัญของการปฏิวัติประชาธิปไตยฝรั่งเศส
ในประเทศรัสเซีย พระมหากษัตริย์รัสเซีย คือ พระเจ้าซาร์ อยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการอย่างเข้มแข็ง แม้ว่าจะพระราชทานรัฐธรรมนูญ แต่อำนาจอธิปไตยยังคงอยู่กับขบวนการเผด็จการโดยสมบูรณ์ การปฏิวัติประชาธิปไตยในรัสเซียจึงมุ่งโค่นอำนาจขบวนการเผด็จการโดยสมบูรณ์ การปฏิวัติประชาธิปไตยในรัสเซียจึงมุ่งโค่นขบวนการเผด็จการและระบอบพระมหากษัตริย์ไปพร้อมกัน และการปฏิวัติประชาธิปไตยในรัสเซียนั้นมีขบวนการคอมมิวนิสต์เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งที่ ๒ ถัดจากการปฏิวัติฝรั่งเศสสุดท้ายในปี ๑๙๗๑ จึงโค่นระบบพระมหากษัตริย์ ลงในทันที และฝ่ายนายทุนเสรีกับนายทุนร้อยซึ่งได้อำนาจได้จับพระเจ้าซาร์และครอบครัวไปสังหาร ซึ่งมีคนเข้าใจผิดกันโดยทั่วไปว่า พวกคอมมิวนิสต์รัสเซียเป็นผู้สังหารพระเจ้าซาร์
ความจริงแล้ว การปฏิวัติประชาธิปไตยในรัสเซียครั้งนั้นพรรคคอมมิวนิสต์ร่วมอยู่ภายนอกเท่านั้น หาได้มีส่วนเข้ากุมอำนาจแต่อย่างใดไม่ ผู้กุมอำนาจคือนายทุนเสรี กับนายทุนน้อย พวกนี้คือผู้สังหารพระเจ้าซาร์และครอบครัว และเลนินยังได้กล่าวตำหนิการสังหารครั้งนั้นว่า เป็นการกระทำที่ไม่สมควรพวกนายทุนเสรีและนายทุนน้อยกุมอำนาจอยู่ได้ ๘ เดือน พรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย (พรรคบอลเชวิค) ก็ทำการปฏิวัติสังคมนิยมโค่นระบบเสรีนิยมในรัสเซียลงเป็นประเทศแรกในโลก
ระบอบพระมหากษัตริย์ในรัสเซียอยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการมาโดยตลอดซึ่งจะถูกโค่นโดยการปฏิวัติประชาธิปไตยโดยไม่ต้องสงสัยและเมื่อการปฏิวัติประชาธิปไตยนั้นมีพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามานำ และพาไปสู่การปฏิวัติสังคมนิยมได้สำเร็จ ก็เป็นการแน่นอนว่าระบอบพระมหากษัตริย์จะถูกทำลาย
ในเยอรมนีและออสเตรีย ฮังการี ระบอบพระมหากษัตริย์ ถูกทำลายเพราะแพ้สงครามโลกครั้งที่ ๑ ในอิตาลีเพราะแพ้สงรามโลกครั้งที่ ๒ ในจีนระบอบพระมหากษัตริย์อยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการเต็มที่ ไม่ยอมทำการเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยแม้แต่เพียงปฏิรูป จึงถูกการปฏิวัติประชาธิปไตยของพรรคก๊กมินตั๋งโค่นลงในปี ๑๙๑๑ ก่อนเกิดพรรคคอมมิวนิสต์จีน ๑๐ ปี ประเทศอื่นๆ ที่ระบอบพระมหากษัตริย์ถูกโค่นโดยการปฏิวัติประชาธิปไตยนั้น ล้วนแต่มีลักษณะอย่างเดียวกันทั้งสิ้น คือระบอบพระมหากษัตริย์ยืนอยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการ กรณีหลังสุดคือระบอบพระมหากษัตริย์ในอิหร่าน ซึ่งถูกโค่นโดยการปฏิวัติประชาธิปไตยในรูปอิสลาม นำโดยอยาตอลลา โคไมนี
ข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าการปฏิวัติประชาธิปไตยในด้านที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์นั้น มีทั้งการรักษาความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีทั้งยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์ เหตุสำคัญเนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ฝ่ายขบวนการประชาธิปไตยหรืออยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการ
การปฏิวัติประชาธิปไตยเป็นปัจจัยอันสำคัญที่สุดและจำเป็นที่สุดในการรักษาความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าสถาบันพระมหากษัตริย์ยืนอยู่ฝ่ายขบวนการประชาธิปไตย แต่ถ้าสถาบันพระมหากษัตริย์ยืนอยู่ฝ่ายขบวนการเผด็จการ การปฏิวัติประชาธิปไตยก็ไม่สามารถจะช่วยเหลือสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ไดทั้งๆ ที่ไม่ต้องการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
นี่คือประสบการณ์จากนานาประเทศเสรีนิยมเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงของพระมหากษัตริย์
ส่วนประเทศที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้อำนาจในขณะที่ยังเป็นราชอาณาจักรนั้นมีอยู่ ๔ ประเทศคือ บัลแกเรีย รูมาเนีย ยูโกสลาเวีย และลาว