Revolutionary Press Agency : Online Journal and News Agency for Peace
สำนักสื่อปฏิวัติ  : วารสารข่าวออนไลน์เพื่อสันติภาพ
8 มิ.ย. 2554 กองหน้าประชาชนรุ่นใหม่ อนุสรณ์ สมอ่อน ตอบคำถามคาใจทำไมต้องปฏิวัติประชาธิปไตย? 
 
"เปิดตำนานคนชุดขาว" ธรรมยาตราทวงคืนเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพาสู่...ปัญหาอธิปไตยดินแดน
เขียนโดย ยอดมณี วัชรญาณ
บทนำ
“ปฐมเหตุ”
             
 
 
   
                
                  ปรากฏการณ์การทวงคืนเขาพระวิหารของชาวไทยต่อประชาคมโลกที่กำลังลุกลามใหญ่ถึงขั้นกลายเป็นกรณีพิพาท (Dispute) ระหว่างประเทศไทย กับ กัมพูชาก่อนที่จะมีการรายงานข่าวใหญ่   คณะธรรมยาตรากอบกู้พิทักษ์รักษาแผ่นดินเดินเท้าจากตัวจังหวัดจังหวัดศรีสะเกษตั้งแต่วันที่18 มิถุนายน เพื่อเดินสู่ชายแดนกัมพูชา ถึงเขาพระวิหารเป็นระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตรโดยมีสื่อโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ติดตามตามทำข่าวตลอดเส้นทางเป็นเวลา 5 วัน ระหว่างทางมีการให้ความรู้แก่ ประชาชน ชาวศรีสะเกษด้วยการแจกเอกสารและใช้เครื่องเสียงอธิบายมาตลอดเส้นทาง

                   อธิบายว่าอย่างไร ? !!! 
 
                   อธิบายตามกรอบกติกาแห่งสมมุติบัญญัติที่ถูกกำหนดและได้รับการยอมรับตามกติกาสากลแห่งโลกอันเป็นที่ยอมรับกันอยู่ 2 ประเด็นคือ การไม่ยอมรับสนธิ สัญญาไทยฝรั่งเศส และการนำอนุสัญญาโตเกียวค.ศ. 1941 มาปฏิบัติให้ปรากฎเป็นจริง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เดียวคือการนำมณฑลบูรพา กลับคืนเป็นของประเทศไทยหลังถูก ประเทศล่าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสนำไปยึดครองก่อนถอนตัวออกไป จากภูมิภาคอินโดจีน และทิ้งร่องรอยข้อขัดแย้งไว้ให้สองแผ่นดินเพื่อนบ้านคือไทยกับกัมพูชาขัดแย้งกันเอง อนุสัญญา โตเกียว ค.ศ. 1941 ฉบับนี้นี่เอง....ที่เป็นปมเงื่อนสำคัญและใช้เป็นแก่นแกนหลักในการอธิบายโดยที่ไม่มีใครในแผ่นดินนี้พูดถึงเลย

                 ในขณะที่คนทั้งประเทศเข้าใจเรื่องการตัดสินหรือไม่ตัดสินปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกภายใต้การดูแลของประเทศกัมพูชาว่าเป็นประเด็นหลักของการต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมเรื่อง  การครอบครองดินแดนของ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา  เรา....ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ กลับเสนอประเด็นครอบคลุมที่ไม่มีใครเสนอมาก่อนคือเรื่องการทวงคืน “มณฑลบูรพา”
 
                 มณฑลบูรพามีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการสูญเสียดินแดนให้แก่ชาติอาณานิคมอย่างฝรั่งเศส  ปัจจุบันหมายถึงสองจังหวัดหลักในอดีตคือ “จังหวัดพิบูลสงคราม” (กินอาณาเขตไปถึงพื้นที่บาง ส่วนของลาว เช่นจำปาศักดิ์) และ “จังหวัดพระตะบอง”  ซึ่งรวมถึงเขาพระวิหารและอาณาเขตบริเวณนั้นทั้งหมด ประเด็นการโต้แย้งเรื่องเขตปักปันดินแดน เขตทับซ้อน ฯลฯ ที่ถกเถียงโต้แย้งกัน อยู่เป็นอันตกไป

                 แท้จริงแล้วการทวงคืนมณฑลบูรพาของขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติได้ทำมาก่อนแล้วเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ปราชญ์คนสำคัญของแผ่นดิน อ.ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ได้ริเริ่ม เรื่องนี้ไว้ก่อน ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติภายใต้การนำของเลขาธิการทั่วไปคนปัจจุบัน จึงได้หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาสานต่อ ในทันทีที่เกิดข่าวในกัมพูชาว่าฝ่ายค้านกำลังนำเรื่องนี้มาโจมตี ฝ่ายรัฐบาลคอมมิวนิสต์ฮุนเซน และได้ทำหนังสือเตรียมยื่นให้กับสถานทูตกัมพูชาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 ก่อนที่จะกลายเป็นข่าวครึกโครมในกลางเดือนมิถุนายน       

                หลักฐานการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ปรากฎอยู่ล่าสุดในปี 2531 เป็นบันทึกหนังสือชี้แจงตอบโต้กับนักวิชาการมีชื่อในประเทศไทยหลายคน  ที่ไม่ยอมรับข้อมูลในด้านนี้   (เอกสารโต้ตอบ ระหว่างดร.ชัยอนันต์ สมุทธวณิช และนายไรน่าน อรุณรังษีเลขาธิการขบวนการประชาธิปไตยในขณะนั้นในปี 2531 ) ทำไมคณะธรรมยาตราละทิ้งกรุงเทพและมุ่งสู่อิสานเพื่อทวงคืนมณฑลบูรพาอย่างไม่ลังเล  ?

                  มีคำกล่าวว่า ไม่มีทฤษฎีปฏิวัติก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อปฏิวัติ  ทว่า...เงื่อนไขประเทศไทยนั้นต่างจากชาติอื่นการเคลื่อนไหวสู่การปฏิวัติประชาธิปไตยของเราเริ่มในจุดที่สูงกว่า สรุปลงตรงประโยคที่ว่า......ถ้าหากไม่มีการปฏิบัติธรรมก็จะไม่มีทฤษฎีปฏิวัติและจะไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิวัติ....

                 การเดินธรรมยาตราระยะกว่าร้อยกิโลเมตรท่ามกลางแดด แผดเผาสลับฝนตกเปียกโชกคือการปฏิบัติธรรม !!! เป็นการฝึกตน สะสมกำลัง  เป็นการประกาศการปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมของพระพุทธองค์ด้วย  “มรรคมีองค์แปด” ด้วยการเริ่มจาก สร้างความคิดให้ถูกก่อนอื่นใด การเดินต่อไปคือการประกาศความถูกต้องตามกฎเกณฑ์แห่งธรรม   เป็นเงื่อนไขการปฏิบัติธรรมครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย   
 
                 การเคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้มีประโยชน์อะไรบ้างต่อความเห็นถูกของคนไทย?
 
                 การเคลื่อนไหวอย่างเป็นรูปธรรมนี้จะเป็นเครื่องมือศึกษาประชาธิปไตยอย่างดีให้คนไทยโดยเฉพาะเรื่องอธิปไตยดินแดน การทวงคืนมณฑลบูรพาเป็นมูลเหตุสำคัญที่จะนำพาคนไทยไปศึกษาเรื่องการปฏิวัติประชาธิปไตยยังไม่พอ   ยังขยายผลทำให้คนไทยต้องหันมาศึกษาการเมืองโลก เพื่อนำทางสู่การศึกษาเรื่อง “การสร้างรัฐชาติสมัยใหม่”  “การสร้างจิตสำนึกชาติ” ขึ้นมาใหม่สูงกว่านั้นคือการศึกษาเรื่องการปฏิวัติประชาชาติ  !!! ประเทศเท่านั้น   คนไทยต้องหันหน้ามาดูใจกันเองต่อแต่นี้ไป !! สังคมไทยไก่ในเข่งตามความเปรียบที่พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ได้ว่าไว้ ในทำนองว่ามองหน้ากันในที่แคบๆแล้วก็จิก กันเอง น่าจะหยุดลงสักที.....เลิกกล่าวโทษกัน  แต่หันมาศึกษาเหตุของปัญหาร่วมกัน ว่าเรา....กำลังสู้อยู่กับอะไร  และคู่ต่อสู้กรณีพิพาทนี้ของเราที่แท้จริงคือใครกันแน่

                 โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว การสู้กันทางลัทธิปกครองของการสร้างรัฐชาติสมัยใหม่ คือการปฏิวัติประเทศชาติสู่โฉมหน้าใหม่ กัมพูชาลัทธิคอมมิวนิสต์ชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด  แต่ประเทศไทยการปฏิวัติดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จและกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้กันระหว่างการปฏิวัติรุนแรงแบบคอมมิวนิสต์ และการปฏิวัติประชาธิปไตยอันเป็นแนวทางสันติของลัทธิประชาธิปไตย  
 
 
   
  
          
สารบัญ
 
 
บทที่ ๑ :   ที่นี่แผ่นดินไทย

บทที่ ๒ :   การเคลื่อนของพลังสันติ... มุ่งหน้าจากจังหวัดศรีสะเกษสู่กันทรลักษณ์

บทที่ ๓ :   ดินแดนแห่งต้นสน

บทที่ ๔:    ประตูที่ปิดตายฝั่งเขมร...ฝั่งในเผชิญม็อบร้านค้าคนไทย
  
บทที่ ๕ :   จิตวิญญาณของผามออีแดง...คืนวันของการสะสมพลัง

บทที่ ๖ :   การเริ่มต้นของยุทธศาสตร์บ้านอธิปไตยและการมาเยือนของพันธมิตรรายสัปดาห์
  
บทที่ ๗ :  ผจญศึกภายนอก...เผชิญศึกภายใน
 
บทที่ ๘ :   การครอบงำ
 
บทที่ ๙ :   ยุทธวิธีคนอธิปไตย
 
บทที่ ๑๐ :  ตัวแปรพันธมิตรและกลศึกภายใน

บทที่ ๑๑ :  การต่อสู้ด้วยพุทธอหิงสาธรรม
 
 
บทที่ ๑๒ :  สู้กับทฤษฎีผิดของคอมมิวนิสต์ฮุนเซน
 
บทที่ ๑๓ :  ภารกิจแห่งประวัติศาสตร์
 
บทที่ ๑๔ :  แผนร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
 
บทที่ ๑๕ :  ปลดปล่อยจากการถูกครอบงำ
 
บทส่งท้าย
 
 
 
 
  
                            
  

ปฏิวัติสันติ

 
สมัคร ยกเลิก
 
 
Revolutionary Press Agency
Online Journal and News Agency for Peace  :  วารสารและข่าวออนไลน์เพื่อสันติภาพ
Copyright © 2024 www.rpathailand.com All Rights Reserved.
ทำเว็บ  ออกแบบเว็บ  Web Design  เว็บสำเร็จรูป  เว็บไซต์สำเร็จรูป