Revolutionary Press Agency : Online Journal and News Agency for Peace
สำนักสื่อปฏิวัติ  : วารสารข่าวออนไลน์เพื่อสันติภาพ
8 มิ.ย. 2554 กองหน้าประชาชนรุ่นใหม่ อนุสรณ์ สมอ่อน ตอบคำถามคาใจทำไมต้องปฏิวัติประชาธิปไตย? 
จะรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงได้อย่างไร?
เขียนโดย ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร  โพสเมื่อ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ๐๑.๑๐ น.
        
   
                                                - ตอน ๑๔ -
 
 
           ในตอนก่อน ๆ เราได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า การปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทยนั้นนอกจากจะไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังเป็นการกระทำเพื่อรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงอีกด้วยไม่ว่าการปฏิวัติประชาธิปไตยนั้นจะกระทำโดยพระมหากษัตริย์โดยเจ้านายโดยขุนนางผู้ใหญ่ หรือโดยข้าราชการระดับล่างและพ่อค้าประชาชนก็ตาม ดังตัวอย่างพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงทำการปฏิรูปประชาธิปไตยเพื่อความสำเร็จของการปฏิวัติประชาธิปไตย    ความปรารถนาของเจ้านายและขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งมีพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระพระนเรศวรฤทธิ์ ทรงเป็นหัวหน้ากราบบังคมทูลสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ทรงทำการปฏิวัติประชาธิปไตย การปฏิวัติประชาธิปไตยของคณะ ร.ศ.130    การปฏิวัติพระประชาธิปไตยของคณะราษฎรลงมาจนถึงการปฏิวัติประชาธิปไตยของทหารหนุ่มหรือยังเติร์ก     ซึ่งล้วนแต่ไม่กระทบกระเทือนความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นไปเพื่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น

           แต่เนื่องจากการปฏิวัติประชาธิปไตย ซึ่งกระทำมาแล้วเป็นเวลาตั้ง 100 ปีนั้นไม่สำเร็จ และประเทศไทยก็จะต้องทำการปฏิวัติประชาธิปไตยให้สำเร็จเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ไม่มีประเทศใด ๆ จะยกเว้นการปฏิวัติประชาธิปไตยได้ ประเทศที่ทำการปฏิวัติประชาธิปไตยเสร็จแล้วก็ก้าวหน้าไป              ประเทศที่ยังไม่ได้ทำหรือทำยังไม่เสร็จก็ล้าหลังต่อไป แต่จะต้องทำให้เสร็จในวันหนึ่ง

           ตามความเป็นจริงแล้วประเทศไทยจะต้องทำการปฏิวัติประชาธิปไตยให้เสร็จพร้อม ๆ กับญี่ปุ่น เราจะไม่ต้องมานั่งวิตกกังวลถึงความอยู่รอดของชาติและความมั่นคงของศาสนาและพระมหากษัตริย์กันอยู่อย่างในขณะนี้เลย แต่ประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจเสียแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไทยกับญี่ปุ่นใครจะใหญ่กว่ากัน การที่ไทยต้องทิ้งญี่ปุ่นเสียไกลลิบจนจะกู่กันไม่ได้ยิน ทั้ง ๆ ที่ไทยเคยขึ้นหน้าญี่ปุ่นในทุก ๆ ทาง ก็เพราะเราไม่ปฏิวัติประชาธิปไตยให้เสร็จเท่านั้นเอง    แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องปฏิวัติประชาธิปไตยโดยไม่มีทางเลือกเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ เพราะถ้าไม่ปฏิวัติประชาธิปไตยให้เสร็จก็อาจจะต้องสิ้นชาติเช่นเดียวกับที่บางประเทศได้ประสบมาแล้ว ฉะนั้นเมื่อพระมหากษัตริย์ เจ้านาย ขุนนาง ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ลงมาจนถึงทหารหนุ่ม ทำการปฏิวัติประชาธิปไตยไม่สำเร็จ ภารกิจของการปฏิวัติประชาธิปไตยก็ย่อมจะมาตกแต่มวลประชาชนทั้งชาติอย่างเป็นไปเอง

          ในปัจจุบัน การเคลื่อนไหวประชาชนของมวลชนประชาชนแผ่ขยายกว้างขวางอย่างไม่เคยมีมาก่อน ความต้องการปฏิวัติประชาธิปไตยซึมซาบเข้าไปในขบวนการประชาชนทุกหมู่เหล่ากระทั้งถึงส่วนล้าหลังที่สุด  แม้ว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนจึงมีรูปแบบต่าง ๆ กัน แต่ก็มีความต้องการอย่างเดียวกัน คือ ระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม ไม่ว่าจะพูดถูกหรือพูดไม่ถูกก็ตาม ในขณะเดียวกัน แนวทางปฏิวัติประชาธิปไตยแห่งชาติก็พัฒนาขึ้นถึงขั้นที่สมบูรณ์ที่สุด จนสามารถจะกล่าวได้ว่า        ไม่มีแนวทางการปฏิวัติประชาธิปไตยของประเทศใดจะสมบูรณ์เท่าแนวทางการปฏิวัติประชาธิปไตยของประเทศไทย และด้วยแนวทางปฏิวัติประชาธิปไตยอันสมบูรณ์นี่เอง ที่การปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทยจะบรรลุผลสำเร็จอย่างราบรื่นเป็นแบบฉบับในโลก ทั้ง ๆ ที่การปฏิวัติประชาธิปไตยของประเทศไทยล่าช้าที่สุดในโลกก็ตาม

          จากข้อเท็จจริงของการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะในหมู่มวลชนเหล่าใดคณะใด พรรคใด กลุ่มใด ชุมนุมใด ชมรมใด ขบวนการใด ไม่ปรากฏว่าได้มีนโยบายทำลาย บั่นทอนหรือกระทบกระเทือนสถาบันพระมหากษัตริย์และก็ไม่มีการกระทำใดที่จะเป็นไปในทางนั้น ตรงกันข้าม กลับปรากฏว่ามีแต่นโยบายที่จะรักษาความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอยกตัวอย่าง เช่น

           นโยบายทางการเมืองของพรรคสังคมประชาธิปไตย ข้อ 1 บัญญัติไว้ว่า “  ดำเนินการเมืองตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข   ”
 
           นโยบายข้อ 1.2 ของพรรคแรงงานประชาธิปไตยบัญญัติไว้ว่า

          “  พิทักษ์ระบอบพระมหากษัตริย์ในฐานะเป็นเอกลักษณ์อันสำคัญที่สุดประการหนึ่งของประเทศไทย ในอดีตพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทยโดยตลอดฉันใด ในปัจจุบันและอนาคตก็ฉันนั้น ประเทศไทยจะต้องเป็นราชอาณาจักรตลอดไป จะเปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐมิได้ พระมหากษัตริย์จะต้องเป็นประมุขของประเทศไทยตลอดไป สถาบันอื่นจะเป็นประมุขของประเทศมิได้   ”

          เมื่อพรรคแรงงานประชาธิปไตยแถลงนโยบายทั่วไปออกไป มีผู้ตั้งคำถามหลายรายว่า ทำไมจึงไม่เอาข้อที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ไว้เป็นที่หนึ่ง? ทำไมเอาไว้ถัดจากข้อความว่าด้วยความรู้เรื่องประชาธิปไตย?

          ทางพรรคตอบว่า ในโลกปัจจุบัน ราชอาณาจักรใดก็ตาม ถ้าไม่มีระบอบประชาธิปไตย ระบอบพระมหากษัตริย์ก็จะไม่มั่นคง หรืออาจถูกทำลายลงได้ และการส่งเสริมชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นั้น ต้องส่งเสริมด้วยความรู้และเหตุผล ไม่ใช่ส่งเสริมอย่างงมงาย จึงจะเป็นการส่งเสริมที่แท้จริง
 
         พรรคแรงงานประชาธิปไตย ส่งเสริมระบอบพระมหากษัตริย์ด้วยความรู้ประชาธิปไตยที่ถูกต้องจึงรู้ได้ว่าระบอบพระมหากษัตริย์ในประเทศไทยนั้นแม้ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ประกอบด้วยลักษณะประชาธิปไตยอย่างมากอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นปัจจัยให้ระบอบพระมหากษัตริย์ยิ่งมั่นคง ในขณะเดียวกันระบอบพระมหากษัตริย์ก็เป็นปัจจัยสำคัญของความมั่นคงของระบอบประชาธิปไตย
 

 

                    
                                                                                                       
             
 
                                                                    - ตอน ๑๕ -
 
             ฉะนั้น ในยุคปัจจุบันการที่จะพิทักษ์ระบอบพระมหากษัตริย์ให้มั่นคง จึงมีหนทางเดียวคือ สร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำเร็จ นี่คือนโยบายว่าด้วยพระมหากษัตริย์ของพรรคแรงงานประชาธิปไตย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของขบวนการประชาธิปไตยในประเทศไทย

          สารสัมพันธ์ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งของขบวนการปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทยเรื่องการปฏิวัติประชาธิปไตย ฉบับที่ 11 ว่าด้วยปัญหาประมุขของประเทศในการปฏิวัติประชาธิปไตย มีข้อความดังนี้

         รูปการปกครอง 3 รูป ซึ่งไม่ว่าจะเป็นของระบอบประชาธิปไตยหรือของระบอบเผด็จการก็ตาม ในประเทศไทยนอกจากมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นรูปการปกครองของระบอบประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว ดังที่กล่าวแล้วในตอนก่อน ยังมักจะเข้าใจผิดว่าหมายถึงประมุขของประเทศอีกด้วย แต่ความจริงแล้ว ระบบรัฐสภาหรือระบบประธานาธิบดีหรือระบบกึ่งประธานาธิบดีไม่ได้หมายถึงประมุขของประเทศ แต่หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจนิติบัญญัติกับอำนาจบริหาร ซึ่งจะได้กล่าวในตอนต่อไป จึงขอกล่าวในตอนต่อไป แต่เนื่องจากมักเข้าใจผิดดังกล่าว จึงขอกล่าวถึงปัญหาประมุขของประเทศในตอนนี้ก่อน

           ในโลกยุคปัจจุบัน รูปของประเทศอันเนื่องด้วยประของประเทศนั้นโดยทั่วไปแล้วมี 2 รูปคือราชอาณาจักร (Kingdom) และสาธารณรัฐ (Republic) ราชอาณาจักรคือประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สาธารณรัฐคือประเทศที่มีประธานาธิบดีหรือสถาบันอื่นที่ไม่ใช่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทั้งนี้ไม่ว่าประเทศนั้น ๆ จะมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือระบอบเผด็จการก็ตาม และประเทศใดจะเป็นราชอาณาจักรหรือสาธารณรัฐนั้น มิใช่ว่าบุคคลใดหรือคณะบุคคลใดจะกำหนดเอาได้ แต่ขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์และทางสังคมของประเทศนั้น ๆ

           วิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์และทางสังคมของประเทศไทย กำหนดให้ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร ประเทศไทยจึงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมาแต่โบราณกาลและตลอดไปในอนาคต ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ จึงได้มีการบัญญัติรับรองและบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญว่า ประเทศไทยต้องเป็นราชอาณาจักรและมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ คือ

             รัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2475) มาตรา 1 บัญญัติว่า “กษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ” รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2475) มาตรา 1 บัญญัติว่า “  ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร  ” รัฐธรรมนูญฉบับอื่นนอกจาก 2 ฉบับนี้ นอกจากบัญญัติว่า “  ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร  ” แล้วยังบัญญัติว่า “  ประเทศไทย มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  ” อีกด้วย ซึ่งหมายความว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร และสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทยตรงกันทุกฉบับ

             แต่มีการพูดกันอย่างกว้างขวางให้ผิดไปจากรัฐธรรมนูญว่า “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” เป็นการลดฐานะของพระมหากษัตริย์จากประมุขของประเทศ มาเป็นประมุขของระบอบ ซึ่งผิดจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จากหลักวิชาการและจากข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าคณะปกครองละเมิดรัฐธรรมนูญ โดยทำให้ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบเผด็จการแล้ว ก็อาจกระทบกระเทือนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะในยุคปัจจุบัน ระบอบประชาธิปไตยเป็นปัจจัยของความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ระบอบเผด็จการบั่นทอนความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์

             การปฏิวัติประชาธิปไตย คือการเปลี่ยนระบอบเผด็จการเป็นระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นการปฏิวัติประชาธิปไตยในประเทศไทย จึงเป็นการกระทำเพื่อความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์

            ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ นอกจากมีภารกิจในการปฏิวัติประชาธิปไตยแล้ว ยังมีความมุ่งหมายเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สำเร็จและมีอุดมคติเพื่อสร้างสังคมประชาธิปไตยให้สำเร็จด้วย ฉะนั้น ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติในประเทศไทย จึงเป็นผู้ส่งเสริมที่แท้จริงให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทยตลอดไป
ด้วย
 
 
             
             (อ่านต่อตอนหน้า)
 
 
 
 
          อ่านย้อนหลัง...
 
 
 

ปฏิวัติสันติ

 
สมัคร ยกเลิก
 
 
Revolutionary Press Agency
Online Journal and News Agency for Peace  :  วารสารและข่าวออนไลน์เพื่อสันติภาพ
Copyright © 2024 www.rpathailand.com All Rights Reserved.
ทำเว็บ  ออกแบบเว็บ  Web Design  เว็บสำเร็จรูป  เว็บไซต์สำเร็จรูป