Revolutionary Press Agency : Online Journal and News Agency for Peace
สำนักสื่อปฏิวัติ : วารสารข่าวออนไลน์เพื่อสันติภาพ
8 มิ.ย. 2554 กองหน้าประชาชนรุ่นใหม่ อนุสรณ์ สมอ่อน ตอบคำถามคาใจทำไมต้องปฏิวัติประชาธิปไตย?
ประชาชนรุกทำเนียบฯยื่นจดหมายนายกฯเปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยสร้างรัฐบาลแห่งชาติ
สำนักสื่อปฏิวัติ - Revolutionary Press Agency (RPA)
กรุงเทพ : 9 พ.ค. 2552
เมื่อเวลาประมาณ ๑๕.๐๐น.ของวันที่ ๔ มิถุนายนที่ผ่านมา นายมนัส เดชเสน่ห์ ผู้อำนวยการโรงเรียนประชาธิปไตย นายจรูญ ชูฟัก เลขาธิการสมัชชาเกษตรกรรายย่อย และนายวิชาญ ทับซ้อน สมาชิกคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาอธิปไตยแห่งชาติในกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา ได้เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ดำเนินการเปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญเนื่องจากเห็นว่าการตั้งชื่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ว่าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมิได้เกิดจากการสร้างประชาธิปไตย แต่เกิดจากการสร้างรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐธรรมนูญมาขึ้นมาทดแทนการสร้างประชาธิปไตยในประเทศไทย
นายมนัสและคณะในชุดขาวของคณะธรรมยาตราและสมาชิกสตรีสูงวัยอีกหนึ่งคนได้เดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวโดยมี ตัวแทนของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ลงมารับจดหมาย โดยนายมนัสได้ทำการอ่านจดหมายจนจบก่อนมอบให้ตัวแทน หลังจากนั้นประชาชนทั้งสี่ก็ได้นั่งปฏิบัติธรรมอยู่บริเวณประตูสี่ข้างทำเนียบรัฐบาลอยู่เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนเดินทางกลับ
จดหมายดังกล่าวได้อ้างถึงข้อเสนอของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรที่ยื่นให้แก่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นายชวน หลีกภัยในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้แก้ไขความเห็นผิดมิจฉาทิฎฐิ ของลัทธิรัฐธรรมนูญมาเป็นลัทธิประชาธิปไตย โดยได้ระบุในเนื้อหาจดหมายว่าการเปลี่ยนแปลงเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 นั้นคณะราษฎรหลอกลวงประชาชนว่าได้เปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่กลับเป็นเพียงการปกครองด้วยการ เปลี่ยนแปลงการปกครองของกษัตริย์เหนือกฎหมายมาเป็นการปกครองที่มีกษัตริย์อยู่ใต้กฎหมาย เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ภายใต้การปกครองของคณะราษฎรนั้น มีอยู่ระยะหนึ่งได้มีการโฆษณาชวนเชื่ออย่างกว้างขวางว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย แต่เป็นเพียงการกระทำของปีกหนึ่งในคณะราษฎร นำโดยนายพันเอกหลวงพิบูลสงคราม ซึ่งได้เข้ากุมอำนาจเด็ดขาดทั้งในพรรคและในรัฐ โดยได้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2481 ต่อจากนายพันเอกพยาพหลพลพยุหเสนาต่อมาเมื่อชนะสงครามอินโดจีน ฝรั่งเศส เลื่อนยศจากพลตรีเป็นจอมพลและลาออกจากบรรดาศักดิ์ใช้ชื่อเดิมว่าแปลก เรียกย่อว่า จอมพลป.พิบูลสงคราม เป็นผู้นำคู่แข่งกับผู้นำอีกปีกหนึ่งในคณะราษฎรคือหลวงประดิษฐ์มนูญธรรม ซึ่งลาออกจากบรรดาศักดิ์เหมือนกันใช้ชื่อเดิมว่านายปรีดี พนมยงค์
จดหมายดังกล่าวระบุว่ามีทางเดียวเท่านั้นที่รัฐบาลอภิสิทธิ์และประเทศชาติประชาชนจะรอดพ้นจากปัญหารุมเร้าได้ ด้วยการลงมือตั้งรัฐบาลแห่งชาติสร้างประชาธิปไตยแก้ไขปัญหาชาติและปัญหาประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ แต่รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ชุดปัจจุบันติดขัดปัญหาความเห็นที่ยังแก้ไม่ตก จึงต้องแก้ปัญหาความเห็นให้ตกไปก่อนจึงจะแก้ปัญหาอื่นๆต่อไปได้ โดยออกประกาศคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญตามข้อเสนอของนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทร อดีตกรรมการบริหารขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
นายมนัสกล่าวว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษาทฤษฎีปฏิวัติประชาธิปไตยบทความของนายประเสริฐ และยึดถือในทฤษฎีปฏิวัติประชาธิปไตยในแนวทางพระปกเกล้ารัชกาลที่ ๗ มาโดยตลอด และได้เคยปรากฏเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อปีนขึ้นไปอยู่บนอนุสาวรียประชาธิปไตยเป็นเวลาหนึ่งคืนพร้อมสมาชิกอีกสองคนเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๙
(อ่านเพิ่มเติมจดหมายเปิดผนึกที่ลิงค์ด้านล่าง)
จดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯอภิสิทธิ์เสนอเปลี่ยนชื่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยสร้างรัฐบาลแห่งชาติ
(๔ มิถุนายน ๒๕๕๒)
รำลึกครบรอบ1 ปีสามคนไทยถูกทหารเขมรจับกรณีต่อสู้อย่างสันติรักษาอธิปไตยดินแดนเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา !!!
ประเทศไทย..สร้างสันติภาพถาวรด้วยพุทธศาสนาประจำชาติ...สู่...ศาสนาประจำโลก..
โดย สมาน ศรีงาม
บทความทั้งหมด
สมัคร
ยกเลิก
หน้าแรก
l
เกี่ยวกับเรา
l
อัลบั้มรูปภาพ
l
ติดต่อโฆษณา
l
ติดต่อ บก.
l
กระดานแสดงความคิดเห็น
l
ข่าวประชาชน
l
นักเขียนประชาชน
Revolutionary Press Agency
Online Journal and News Agency for Peace :
วารสารและข่าวออนไลน์เพื่อสันติภาพ
Copyright © 2024
www.rpathailand.com
All Rights Reserved.