|
สำนักสื่อปฏิวัติ - Revolutionary Press Agency (RPA)
กรุงเทพ : 9 พ.ค. 2552
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ประชุมสภาเกษตรกรแห่งชาติวันนี้เรื่องการปฏิรูปที่ดินแก้ปัญหาเกษตรกร ขึ้นที่ศาลาการเปรียญวัดตะล่อม เสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหา เรื่อง ให้เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง ที่มีตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วม ที่ประชุมมีมติให้ใช้ข้อมติเอกฉันท์เดิมที่เสนอไว้เมื่อ11 ปีที่แล้วในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ให้แก้ปัญหาด้วยจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อดำเนินการสร้างประชาธิปไตย แล้วจึงทำการเพื่อปฏิรูปที่ดินในขั้นต่อไป นางนาง วันคำ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติกล่าวในที่ประชุมว่า สภาเกษตรกรได้เคยยื่นข้อเรียกร้องเป็นมติเอกฉันท์ให้แก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรด้วยการสร้างรัฐบาลแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นคือนายชวน หลีกภัยได้รับปาก แต่มิได้ลงมือปฏิบัติให้เกิด
ฉันมาขอร้องเพราะยื่นมาตั้งแต่รัฐบาลนายกชวนเมื่อสิบปีก่อน แต่รัฐบาลก็ไม่ยอมทำ รัฐบาลนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดหรือเปล่า นายกอภิสิทธิ์จะอยู่ได้จริงหรือ นางนาง วันคำกล่าว
จรูญ ชูฟัก เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติกล่าวว่าสภาเกษตรกรเสนอสองขั้นตอนคือเสนอการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติก่อน แล้วจึงการปฏิรูปที่ดินอีกขั้นตอนหนึ่ง
ในที่ประชุมได้มีการแจกเอกสารให้สมาชิกประกอบการศึกษาเรื่องนโยบาย 6601 ซึ่งเป็นนโยบายย่อยของนโยบาย 66/23 มีเนื้อหาอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงจากสู่ระบบเศรษฐกิจเกษตรกรรมไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการขยายการผลิต และจำเป็นต้องทำให้กรรมสิทธิ์ของชาวนาซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยระบุว่า ความหมายที่แท้จริงของการปฏิรูปคือยกเลิกระบบเจ้าที่ดิน (Landlordism) เพื่อทำให้เกิดการกระจายทุน ไม่ใช่การช่วยชาวนาชาวไร่ แต่เป็นการทำให้เจ้าของที่ดินได้มีกรรมสิทธิ์นำสู่การเป็นฐานรากของสังคมอุตสาหกรรม เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชาติ
การปฏิรูปที่ดินคือการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากทุนผูกขาดไปสู่เกษตรกร การได้กรรมสิทธิ์จะทำให้ชาวนาชาวไร่มีสภาพจิตใจดีขึ้นเพราะมีกรรมสิทธิ์เป็นของตนเอง เป็นปัญหาพื้นฐานของประชาธิปไตยที่จะต้องเร่งแก้ให้สำเร็จ คือการทำให้เกิดประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการสร้างประชาธิปไตยทางการเมือง
นายสมาน ศรีงาม ผู้ดำเนินการประชุมให้สัมภาษณ์สำนักสื่อปฏิวัติเพิ่มเติมว่า การปฏิรูปที่ดินเป็นหัวใจของการสร้างประชาธิปไตย ทำให้เกิดเศรษฐกิจประชาธิปไตย ไม่ผูกขาดอยู่กับกลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง ในอดีตคือการผูกขาดทุนอยู่ที่เจ้าที่ดิน ปัจจุบันเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจกรรมสิทธิ์ที่ดินตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติ ผ่านกลไกกฎหมายการเงินผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นักทฤษฎีในขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติกล่าวว่า การปฏิรูปที่ดินของระบอบประชาธิปไตย แตกต่างจากการริบที่ดินแบบคอมมิวนิสต์ เพราะการปฏิรูปคือการพัฒนาและค่อยๆเปลี่ยน การยกเลิกระบบเจ้าที่ดิน ไม่จำเป็นต้องเป็นการปฏิวัติรุนแรงแบบปฏิวัติฝรั่งเศสเสมอไป การส่งเสริมกรรมสิทธิ์เอกชนในกลุ่มชาวนาซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ จึงเป็นการกระจายอำนาจไปสู่คนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะที่ดินจำนวนมากตกอยู่ในมือของเจ้าที่ดินซึ่งเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกันกับการทำอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนหรือคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ใช่อยู่กับคนส่วนน้อย
ตัวอย่างความรุนแรงเกิดขึ้นมาก่อนในจีน และฝรั่งเศส ที่มีการปฏิวัติที่ดินด้วยความรุนแรงคือการริบเอาที่ดินเป็นของรัฐและฆ่าเจ้าของที่ดินทิ้ง แต่แนวทางการปฏิรูปเป็นแนวทางของประชาธิปไตย ที่ดำเนินการปฏิรูปด้วยการทำให้ที่ดินเป็นของรัฐก่อน (Nationalization) แล้วจึงมีการกระจายกรรมสิทธิ์ทีหลัง
อนึ่ง นโยบาย66/23 เป็นนโยบายที่ออกขึ้นในปี 2523 เพื่อใช้แก้ปัญหาคอมมิวนิสต์ในช่วงรัฐบาลพลเอกเปรมติณสูลานนท์ เพื่อยุติการฆ่าฟันในป่าระหว่างกองทัพไทยและกองทัพแดงของคอมมิวนิสต์ เป็นนโยบายสร้างประชาธิปไตยที่เขียนขึ้นโดยนายประเสริฐ ทรัพย์สุนทรโดยปฏิเสธทฤษฎีโดมิโนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาแทรกแซงประเทศไทยระหว่างการปฏิบัตินโยบายต่อประเทศเพื่อนบ้านในที่กำลังเผชิญปัญหาสงครามกลางเมืองคอมมิวนิสต์ การปฏิเสธทฤษฎีโดมิโน ไม่เข้าร่วมรบในอินโดจีนตามนโยบาย 66/23ทำให้ประเทศไทยได้รับชัยชนะและยุติการฆ่าฟันและความรุนแรงในประเทศสำเร็จ
(อ่านเพิ่มเติมข้อมติเอกฉันท์ที่ลิงค์ด้านล่าง) | 
.jpg)
.jpg)
