ศูนย์ข้อมูลผู้ให้บริการ "ติดตั้งแก็ส LPG NGV" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
 
Useful Links
 
ราคาน้ำมัน แก็ส วันนี้

รับสมัครจดหมายข่าว โปรโมชั่น
รับสมัครข่าวสาร ข้อมูลบริการน่าสนใจ กรุณากรอกอีเมล์นล่างนี้
หากท่านยังมิได้ติดตั้งโปรแกรม Acrobat Reader กดปุ่มติดตั้ง

 
อ.สุรัฐพงศ์ สุวรรณรัตน์ กรรมการบริหาร สมาคมโหร แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 

 
จูนอัพ ช่วยประหยัดน้ำมันได้จริงหรือ??
ทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับเรื่องการประหยัดพลังงาน ลดภาวะโลกร้อน ซึ่งประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้าเพราะกระทรวงพลังงานได้รณรงค์ให้ทุกคนหันมาประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการประหยัดไฟฟ้า น้ำมัน และที่ขาดเสียมิได้คือการหันมาใช้พลังงานทดแทน เช่น ก๊าซธรรมชาติ NGV น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ โซลาร์เซลล์ แหมๆก็ยุคนี้กระแสพลังงานมาแรงมากๆ ดูอย่างราคาน้ำมันในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนทะลุไปถึง 40 บาท/ลิตร เรียกว่าปรับขึ้นกันรายวันเลยก็ว่าได้ ซึ่งคุณเองคงรู้ดีที่สุด ในอดีตคุณอาจเคยเติมน้ำมันเต็มถังที่ราคา 1,000 บาท แต่เดี๋ยวนี้ราคานี้หาไม่ได้อีกแล้ว เพราะเต็มถังของคุณในเวลานี้ แต่ละครั้งคงจ่ายไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท เป็นแน่
 
จากปัญหาราคาเชื้อเพลิงที่มีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆรวมทั้งประเทศไทยเราต้องนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศอีก 90 % ซึ่งทำให้แต่ละปีประเทศไทยเราต้องมีการสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมหาศาลกับการนำเข้าน้ำมันดิบ เชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆโดยเฉพาะภาคการคมนาคมในการขนส่ง
 
ในภาวะน้ำมันแพง หรือวิกฤตราคาน้ำมันแพงเช่นนี้ก๊าซธรรมชาติจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจโดยความร่วมมือของทางภาครัฐ หน่วยงานต่างๆก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งประชาชนก็มีความมั่นใจมากขึ้นในเรื่องของคุณภาพและราคาที่ถูกกว่าน้ำมันถึง 3 เท่า และถ้าหากในอนาคต รถขนส่งสินค้า รถโดยสาร ต่างก็เปลี่ยนมาใช้ NGV ทั้งหมดประชาชนคงไม่ต้องแบกรับภาระค่าขนส่งโดยสารที่เพิ่มขึ้น และวิกฤตน้ำมันแพงอยู่ตอนนี้
 
ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกยุคของสังคมเศรษฐกิจนั่นคือ น้ำมัน ซึ่งในปัจจุบันราคาของน้ำมันได้ปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งปริมาณของน้ำมันที่มีอยู่บนโลกค่อยๆหมดลง จากปริมาณการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เองทางเลือกของพลังงานทดแทนจึงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เองทางเลือกของพลังงานทดแทนจึงเกิดขึ้นโดยเฉพาะกับยานพาหนะที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน
 
สำหรับรถยนต์แล้ว ปัจจุบันทางเลือกใหม่ของพลังงานทดแทนให้เลือกใช้อยู่หลายประเภท อาทิเช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานไฮโดรเจน พลังงานไฟฟ้า พลังงานก๊าซ ฯลฯ เป็นต้น หนึ่งในจำนวนของพลังงานทดแทนนี้ มีพลังงานทดแทนประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากจากหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และยังมีปริมาณที่มากเพียงพอกับความต้องการใช้ในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งราคาของพลังงานนี้เมื่อแปรรูปเป็นพลังงานเชื้อเพลิงสำเร็จรูปแล้วมีราคาต้นทุนต่ำกว่าราคาน้ำมันมากถึง 3 – 4 เท่า นั่นคือ พลังงานก๊าซ ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ ก๊าซธรรมชาติ NGV และก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ดังนั้นทางภาครัฐจึงได้เร่งส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบอื่นๆมาใช้แทนน้ำมัน ซึ่งทางเลือกนั้นก็คือการใช้ ก๊าซธรรมชาติ ที่หลายคนอาจรู้จักเป็นอย่างดี
 
รถยนต์เป็นสิ่งอำนวยความสบายสบายให้กับเราแต่ก็ดูเหมือนว่าต้องใช้พลังงานค่อนข้างมาก ซึ่งนายวีระพล จิระประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน จึงมีเคล็ดลับในการประหยัดน้ำมันให้รถยนต์ของคุณมาฝากกัน
 
 
Tune Up เครื่องยนต์ เพื่อประหยัดน้ำมัน
รถยนต์เปรียบเสมือนเพื่อนคู่หู ไปไหนไปกัน ไม่ว่าฝนตก แดดออก รถยนต์ก็ไปกับเราได้ทุกที่ ซึ่งคุณควรให้ความสำคัญดูแลเพื่อนคู่หูด้วยการนำไป ตรวจสภาพเครื่องยนต์ หรือการ จูนอัพ เพราะช่วยทำให้รถยนต์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยคุณประหยัดน้ำมันได้อีกตั้ง 10 % ด้วยเหตุผลนี้ กระทรวงพลังงานจึงได้สนับสนุนให้มีการตรวจเช็คเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่อง
 
โดยกระทรวงพลังงาน ร่วมกับผู้ประกอบการเอกชน ได้แก่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ฟรี ให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลต่างๆ ตามศูนย์บริการบางจาก และศูนย์บริการ ปตท. ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับการประหยัดน้ำมันด้วยวิธีง่ายๆ ก็สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ http://www.thaienergynews.com/ หรือสายด่วนหาร 2 โทร 0 – 2612 – 1040
 
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังมีการแนะนำวิธีการจูนอัพด้วยตัวเองมาฝากกันอีกด้วย
 
ข้อแรก ตรวจเช็คระบบไฟสัญญาณ ได้แก่ ไฟหรี่, ไฟหน้าสูง – ต่ำ, ไฟเลี้ยว, ไฟเบรก, ไฟฉุกเฉิน, ไฟถอยหลัง และไฟส่องท้าย ตรวจระบบน้ำฉีดกระจก สภาพใบปัดน้ำฝนว่าทำงานได้ตามปกติหรือไม่
 
ข้อสอง ตรวจเช็คระบบห้ามล้อ ได้แก่ เช็คระยะเบรกมือโดยดึงเบรกมือแล้วเช็คว่ารถมีการเคลื่อนตัวหรือไม่, วัดแรงดันลมยาง และเติมลมยางให้ได้ค่าตามที่บริษัทรถยี่ห้อนั้นๆกำหนดไว้, เช็คสภาพน้ำมันเบรก ตรวจดูว่าน้ำมันมีสภาพใสหรือขุ่น (ถ้าขุ่น ควรทำการเปลี่ยน) และเช็คระดับน้ำมันเบรกให้อยู่ระหว่างช่วง max กับ min
 
ข้อสาม ตรวจเช็คระบบเครื่องยนต์ ได้แก่ เช็คระดับน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ และตรวจระดับน้ำในหม้อพักน้ำให้อยู่ในระดับระหว่างช่วง max กับ min (ถ้าต่ำกว่า min ให้เติมเพิ่ม), เช็คสภาพท่อยางหม้อน้ำ ตรวจดูรอยรั่วซึม ซึ่งสังเกตได้จากคราบน้ำบนท่อยาง, เช็คสภาพกรองอากาศ ถ้าสกปรกให้ทำความสะอาดโดยใช้ที่เป่าลม เป่าสิ่งสกปรกให้หลุดออก ซึ่งถ้าไส้กรองสะอาดจะทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ และประหยัดน้ำมันได้ การเช็คสภาพสายพาน และสายหัวเทียน ดูว่ามีรอยฉีกขาด หรือเสื่อมสภาพหรือไม่ ถ้ามีให้รีบเปลี่ยน, เช็คสภาพหัวเทียน ถอดหัวเทียนออกมาตรวจดูว่ามีคราบเขม่า หรือไม่ ถ้ามีให้ทำความสะอาด, เช็คพัดลมระบายความร้อน โดยการติดเครื่อง รอดูว่าพัดลมทำงานตามปกติหรือไม่เมื่อเครื่องร้อน
 
แล้วจะมัวรีรออะไรอยู่ล่ะ มาจูนอัพเครื่องยนต์กันเถอะ ซึ่งอย่าลืมว่าการจูนอัพควรทำทุกๆ 6 เดือน เพราะนอกจากจะช่วยคุณประหยัดน้ำมันแล้ว ยังยืดอายุรถ และลดการเกิดอุบัติเหตุได้ อีกด้วย
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นาย วีระพล จิรประดิษฐกุล
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน
 
กรมการขนส่งทางบก กระทรวงพลังงาน
Disclaimer
Privacy Policy
Copyright © 2024 www.Tidtanggas.com All Rights Reserved.
ทำเว็บ  ออกแบบเว็บ  Web Design  เว็บสำเร็จรูป  เว็บไซต์สำเร็จรูป