วันชัย ศิริธรรม เริ่มต้นเลี้ยงกวางพันธุ์รูซ่าเพียง 2 ตัว ผ่านไป 13 ปี วันนี้กลายเป็นเจ้าของกิจการ 100 ล้าน ในฐานะเจ้าของท๊อปแลนด์ฟาร์ม แอนด์ คันทรีโฮม ทำธุรกิจฟาร์มกวางครบวงจร
ปัจจุบันท๊อปแลนด์ฟาร์ม แอนด์ คันทรีโฮม กลายเป็นศูนย์เพาะพันธุ์กวางเขาใหญ่-ปากช่อง และเป็นฟาร์มกวางพันธุ์รูซ่ารายใหญ่ในไทย ตั้งเลขที่ 99/1 หมู่ 10 ต.สวนคลองม่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีกวางพันธุ์รูซ่าที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียกว่า 800 ตัว นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรที่เป็นพันธมิตรอีกจำนวนหนึ่ง
วันชัยเลี้ยงกวางเพื่อขยายพันธุ์หรือเพาะพันธุ์ขาย สนับสนุนเกษตรกรเป็นเครือข่าย เปิดเป็นศูนย์เรียนในการเลี้ยงกวาง และตัดเขากวางอ่อนมาแปรรูป หรือนำไปดองสุรา และแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ "ซุปกวางสกัด" ภายใต้ยี่ห้อ "ตรารูซ่า" และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดกำลังพัฒนาฟาร์มเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกด้วย
กว่าจะถึงวันนี้ได้ วันชัยบอกว่า เขาเริ่มเลี้ยงกวางพันธุ์รูซ่าเป็นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ที่ซื้อมาเพียง 1 คู่ในปี 2535 เลี้ยงแบบง่ายๆ ให้กินหญ้าและใบไม้ แต่พอเลี้ยงไปเลี้ยงมา แม่พันธุ์ออกลูกออกหลานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีผู้พบเห็นต่างขอซื้อบ้างในราคาตัวละประมาณ 3.5-4 หมื่นบาท เขาอ่อนกวางขายได้ราคา กก.ละถึง 2 หมื่น ทำให้เขามองว่า การเลี้ยงกวางน่าจะทำเป็นอาชีพได้
"ผมเรียนรู้วิธีการเลี้ยงกวาง การตัดเขากวางขาย ศึกษาประโยชน์ของเขากวาง ซึ่งแรกๆ ผมลองเอาเขากวางมาดองสุรา ไว้ดื่มเองและให้เพื่อนๆลองดื่ม เพราะอ่านตำราแล้วพบว่า มีสรรพคุณด้านบำรุงกำลัง จะออกแนวยาโด๊ป ต่อมามีการพูดแบบปากต่อปาก ทำให้มีคนเข้ามาชมฟาร์มมากขึ้น บางรายผมให้ลองชิมสุราดองเขากวาง ทำให้บางคนชอบและขอซื้อ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ทั้งในวงการบันเทิง นักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผมลองตั้งราคาเล่นๆ แบบไม่ตั้งใจ ปรากฏว่ามีคนขอซื้อมาก ผมจึงทำสุราดองเขากวางอ่อนและสมุนไพรจีนขายขวดละ 2 หมื่นบาท" วันชัย กล่าว
เพียง 5 ปีกิจการเลี้ยงกวางของวันชัยเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นนักธุรกิจเงินล้าน และตัดสินใจจะเลี้ยงกวางในเชิงธุรกิจ ที่ อ.ปากช่อง 40 ไร่ เพื่อปลูกหญ้า ปลูกต้นไม้สารพัดชนิด เพื่อเป็นอาหารของกวางมีทั้งหญ้า เงาะ มะม่วง กล้วย เพราะผลไม้เหล่านี้ล้วนแต่เป็นที่ชอบของกวางทั้งนั้น
ในปีนั้น วันชัย ยอมควักเงินถึง 1 ล้านบาท ควงแขนภรรยาไปยังประเทศออสเตรเลีย ทั้งที่เขาไม่เคยไปต่างประเทศ และไม่เคยนั่งเครื่องบินมาก่อน อันดับแรกเขาไปหาทูตพาณิชย์ของไทยประจำออสเตรเลีย เพื่อขอคำแนะนำในการที่จะติดต่อซื้อกวางเข้าประเทศ
หลังจากที่ทูตพาณิขย์ของไทยได้แนะนำให้รู้จักกับเจ้าของฟาร์มกวางรายใหญ่และเป็นผู้ค้ากวางพันธุ์รูซ่าในออสเตรเลีย เขายังยอมควักกระเป๋าถึง 2 แสนบาท เพื่อเช่าเครื่องบินเล็ก บินตระเวนชมฟาร์มต่างๆ ในประเทศออสเตรเลีย ที่เป็นฟาร์มระดับมาตรฐาน เสร็จแล้วลงทุนอีก 7 ล้านบาท เพื่อนำเข้ากวางมาเลี้ยงจำนวน 500 ตัว
"ผมไปซื้อกวางที่ออสเตรเลีย บางครั้งรู้สึกเจ็บปวด เพราะผมมารู้ที่หลังว่า ผมถูกหลอก ตอนที่ตกลงเซ็นสัญญาซื้อขาย เขาพาผมไปดูที่ฟาร์มหนึ่งที่มีกวางระดับคุณภาพ แต่เวลาส่งกวางมาให้กลายเป็นกวางคุณภาพต่ำ แต่ใจหนึ่งผมคิดช่างมัน ถือว่าเราไปหาประสบการณ์ จากนั้นผมตั้งใจว่า จะเลี้ยงกวางที่ไม่ดีนี่แหละ ให้เป็นกวางที่ดี ผมจะทำฟาร์มให้สวยกว่าของออสเตรเลียเสียอีก ถึงตอนนี้ผมทำได้แล้ว" เขา กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
กิจการเลี้ยงกวางรูซ่าของเขาไปได้ดี ทำให้มีกำไร จากการขายลูกกวางอายุ 6 เดือน-1 ปี ราคาตัวละ 2-3 หมื่นบาท หากเป็นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ขายตัวละ 4 หมื่นบาท โดยแม่พันธุ์ 1 ตัวให้ลูก 2 ปี 3 ตัว หากเกษตรกรซื้อไปผสมพันธุ์จนได้ลูกออกมาเขายินดีจะรับซื้อ หากลูกกวางอายุ 6 เดือน -1ปี ในราคาตัวละ 1.5-2 หมื่นบาท และถ้าไม่มีประสบการณ์สามารถเข้าไปเรียนรู้วิธีการเลี้ยงกวางในฟาร์มของเขาได้ โดยไม่คิดมูลค่าและยังมีอาหารและที่พักให้ด้วย
3 ปี หลังจากที่ วันชัย นำกวางมาจากออสเตรเลีย กิจการของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเก็บเงินได้และซื้อที่จากที่เคยเช่ามาเป็นที่ของตัวเองในราคา 15 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อปี 2546 ได้ซื้อที่แห่งใหม่ 118 ไร่ ในราคา 36 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์เพาะพันธุ์กวางรูซ่าครบวงจร ปัจจุบันกำลังดำเนินการ
"เลี้ยงกวางรูซ่าได้กำไรดีครับ เพราะทุกอย่างมีราคาหมด อย่างเราจะเลี้ยงเพื่อขายลูกก็ได้ราคาตัวละ 2-3 หมื่นบาท ลูกกวางอายุไม่เกิน 1 ปี ถ้าพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์เราขาย 4 หมื่นบาท เขากวางตัวผู้เราตัดเขาอ่อนขายทุก 8 เดือน อย่างน้อยกวางตัวผู้ 1 ตัว ตัดเขาอ่อนสดได้ขั้วละ 600 กรัม ถึง 1 กก. ขายเขาอ่อนสดราคา กก.ละ 2.5 หมื่นบาท เนื้อกวาง กก.ละ 800-1,000 บาท ส่วนยาดองสุราก็ขายได้ราคาอีกตอนนี้ สุราดองเขากวางอ่อนและสมุนไพรจีน ผมทำเป็นโหลขนาด 5 ลิตร ขายโหลละ 5 หมื่น- 1 แสนบาทครับ "
เขายังบอกอีกว่าได้กู้เงิน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเลี้ยงกวางรูซ่า ภายในฟาร์มพัฒนาให้เป็นสวนที่สวยกว่าฟาร์มมาตรฐานในออสเตรเลีย มีการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ มีสระน้ำขนาดใหญ่ มีธารน้ำตก มีบ้านพักศูนย์ฝึกอบรมสำหรับผู้ที่สนใจในการเลี้ยงกวาง
ส่วนคอกกวางนั้นมีทั้งหมด 20 คอกๆ ละ 50-100 ตัว จะมีเด็กมาตัดเขาอ่อน เพื่อนำไปแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์เองคือดองสุรา และแปรรูปเป็น "ซุปกวางสกัด" ทำเป็นอาหารเสริม เน้นส่งขายต่างประเทศ
วันชัย ศิริธรรม เริ่มต้นชีวิตจากสูญก็ว่าได้ แต่วันนี้กลายเป็นผู้เลี้ยงรายใหญ่ในประเทศ พร้อมๆกับการขยายกิจการเป็นธุรกิจระดับร้อยล้านในช่วงเวลาเพียง 13 ปีเท่านั้น
เลี้ยง"กวางรูซ่า"ไม่ยาก
วันชัย ศิริธรรม เล่าถึงประสบการณ์การเลี้ยงกวางรูซ่าว่า เลี้ยงง่าย ไม่แตกต่างกับการเลี้ยงโคทั่วไป และอาจจะเลี้ยงง่ายกว่าด้วย เพราะกวางกินพืชทุกอย่าง ตั้งแต่หญ้า ใบไม้ทุกชนิด รวมถึงผลไม้ด้วย ส่วนอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารเม็ด ใช้อาหารที่เลี้ยงโคทั่วไป แต่ทางที่ดีควรจะหลีกเลี่ยงอาหารเม็ด เพราะการเลี้ยงด้วยการให้พืชนั้นเป็นสมุนไพรให้กวางด้วย ขณะที่โรคภัยของกวางมีน้อยมาก เพราะกวางเป็นสัตว์ชอบวิ่ง ทำให้มีร่างกายที่แข็งแรง
ถ้ามีเนื้อที่เพียง 1 ไร่ สามารถเลี้ยงกวางได้แล้วถึง 100 ตัว แต่หากมีเนื้อที่ไม่มากพอที่จะเลี้ยงแบบธรรมชาติ พยายามทำให้เป็นคอกเล็กคอกน้อย คอกละไม่เกิน 100 ตารางเมตร เพราะจุดอ่อนของกวางนั้นคือตกใจง่าย วิ่งเร็ว เมื่อวิ่งแล้ว ไม่สามารถหนีทันทีได้ จึงชนกันเองอาจเสียชีวิตได้ แต่หากคอกแคบๆ ทำให้กวางวิ่งเร็วไม่ได้เพราะติดรั้วนั่นเอง
การเลี้ยงกวางเพื่อเป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ต้องให้เวลา 2 ปี แม่พันธุ์จึงตั้งท้องได้ ซึ่งหลังจากที่กวางมีการผสมพันธุ์ใหม่แล้ว แม่พันธุ์จะทั้งท้อง 8 เดือน จึงคลอดลูก และเลี้ยงไว้เพียง 6 เดือนสามารถขายได้
ส่วนแม่พันธุ์จะเริ่มตั้งท้องใหม่อีก คือ 2 ปีจะได้ลูก 3 ตัว หากเป็นตัวเมียจะทำเป็นแม่พันธุ์ต่อ ถ้าเป็นตัวผู้นอกจากจะทำเป็นพ่อพันธุ์ได้แล้ว ยังสามารถตัดเขาขายได้ด้วย โดยกวางรูซ่าตัวผู้ 1 ตัว จะให้เขาอ่อนอย่างน้อย 10 กก. เพราะสามารถที่จะเขาอ่อนได้ทุกๆ 8 เดือน สำหรับวงจรชีวิตกวางรูซ่าจะอยู่ราว 12-25 ปี
"เลี้ยงกวางรูซ่าได้กำไรดี ลูกกวางขายได้ตัวละ 2-3 หมื่น พ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ 4 หมื่น เขากวางอ่อนตัดได้ทุก 8 เดือน กก.ละ 2.5 หมื่น เนื้อกวาง กก.ละ 800-1,000 บาท ส่วนยาดองสุราเขากวางอ่อนผสมสมุนไพรจีน ขายโหลละ 5 หมื่น- 1 แสน"
ดลมนัส กาเจ
www.bangkokbizweek.com
|