Untitled Document
|
Tel. 02 758 5658-9 , 081 372 5677
E-mail. info@indochinauniverse.com
 
 
Tour Laos :
ทัวร์ลาว สะบายดีเมืองลาว 4 วัน บินการบินไทย
Tour Code :
Tour Laos 001
Location :
Laos
Tour Period :
4 Days

ทัวร์ลาว สะบายดีเมืองลาว 4 วัน บินการบินไทยา
 

ชมความงดงามของวัฒนธรรม เส้นทางอุดรธานี เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง ร่วมทำบุญ ตักบาตร ณ เมืองมรดกโลก หลวงพระบาง เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของอินโดจีน ใส่บาตรข้าวเหนียวพระนับ 100 รูป ชมพระราชวังหลวง และไฮไลต์หลวงพระบางหลากหลาย
 
Tour Schedules
Month
Period
Updated
December
31Dec-3jan
 -
 
Tour Itinerary
วันแรก กรุงเทพฯ – อุดรธานี – เวียงจันทน์ – วังเวียง
 
08.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์เช็คกรุ๊ป การบินไทย (TG)

09.45 น. นำท่านออกเดินจากกรุงเทพฯ สู่ จ.อุดรธานี ด้วย เที่ยวบินที่TG002

10.50 น. เดินทางถึง สนามบิน จ.อุดรธานีนำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศ สู่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย ผ่านขั้นตอนพิธีการตรวจคนเข้าออกเมืองเป็นที่เรียบร้อยเดินทางข้ามสะพานสู่ นครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว

นำท่านสักการะ วัดพระธาตุหลวงตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติลาว มีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวง แทนถึงความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาว สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้าง เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักร มีลักษณะคล้ายป้อมปราการ มีการก่อสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆ เอาไว้โดยตลอด ประตูทางเข้าเป็นบานประตูไม้ใหญ่ลงรักสีแดงรอบๆ องค์พระธาตุยังมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่โดยรอบ

จากนั้นนำท่านชม อนุสาวรีย์ประตูชัยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครเวียงจันทน์ บนถนนล้านช้างจะไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่สละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์ ประตูชัยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างนี้ใช้ปูนซีเมนส์จากประเทศอเมริกาที่ซื้อมาเพื่อสร้างสนามบินใหม่ในเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีนแต่พ่ายเสียก่อนจึงได้นำมาสร้างประตูชัยแทน เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงามและกลมกลืนอย่างยิ่ง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแม่โขง
(เมืองเวียงจันทน์)

บ่าย นำท่านเข้าชม หอพระแก้วตั้งอยู่บนถนนเชษฐาธิราช ติดกับทำเนียบประธานประเทศ แต่เดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2108 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ที่อัญเชิญมาจากล้านนา ปัจจุบันเป็นหอพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงพระแท่นราชบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฎกภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ของลาว และรวบรวมศิลปะโบราณวัตถุล้ำค่าของลาวไว้ที่นี่ แล้วนำท่านข้ามถนนอีกฝั่งไปชม วัดสีสะเกดตั้งอยู่บนถนนเชษฐาราช ตรงข้ามกับหอพระแก้ว เจ้าอนุวงศ์ทรงสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2361 เป็นสถาปัตยกรรมแบบของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นวัดที่เก่าที่สุดในนครเวียงจันทน์ ผนังด้านในของระเบียงที่ล้อมรอบพระอุโบสถไว้มีการเจาะเป็นซุ้มเล็กๆ สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปเงินและพระพุทธรูปดินเผามากกว่า 2,000 องค์ สำหรับระเบียงด้านตะวันตกเป็นที่เก็บรวบรวมเศษชิ้นส่วนของพระพุทธรูป ด้านหลังของพระอุโบสถมีรางไม้รูปทรงคล้ายพญานาคใช้เป็นรางสำหรับสรงน้ำพระในเทศกาลสงกรานต์ ด้านซ้ายมือเป็นหอไตรสร้างตามแบบอย่างแบบศิลปะพม่า ปัจจุบันวัดนี้ใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชของลาว

เดินทางขึ้นเหนือสู่ เมืองวังเวียง(ห่างจากเวียงจันทน์ 156 กม) เมืองวังเวียง เป็นเมืองธรรมชาติสวยสดงดงาม อากาศเย็นสบาย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำซองล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูง มองเห็นสายน้ำกว้างสลับกับเนินทราย โดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง วังเวียงได้ฉายาว่า กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารนางบด

หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Thavonsouk Resort หรือ เทียบเท่า
 
วันที่สอง วังเวียง - หลวงพระบาง (เมืองมรดกโลก)
 
07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่เมืองหลวงพระบาง ระยะทาง 210 กิโลเมตร ระหว่างทางท่านจะได้ผ่านหมู่บ้านไม้นานาพันธุ์ ขุนเขาหลายสิบลูก เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม การทำนาขั้นบันได และหมู่บ้านชนเผ่าต่างๆ ของลาว ผ่านเมือง กาสี พูคูณ เชียงเงิน และ เส้นทางสายนี้ถือว่าเป็นสันทางที่สวยที่สุด เส้นทางหนึ่งในเอเชียอาคเนย์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเทพบุบผา

บ่าย เดินทางสู่ พระราชวังเก่า(Royal Palace Museum)เป็นวังที่เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ทรงประทับอยู่ที่นี่จนสิ้นพระชนม์ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ.2518 พระราชวังก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย หอฟังธรรม ห้องรับแขกของเจ้ามหาชีวิตและพระมเหสี ห้องท้องพระโรง ทางด้านหลังก็เป็นพระตำหนักซึ่งมีเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเรียบง่ายและนำท่านนมัสการหอพระบาง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปประทับยืน ปรางค์ห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยหลังบายน น้ำหนัก 54 กก. ประกอบด้วยทองคำ 90% และยังมีพระพุทธรูปนาคปรกสลักศิลาศิลปะขอมอีก 4 องค์ประดิษฐานอยู่เดินทางไปยังหลัง จากนั้นตรงข้ามพระราชวังนำท่านเดินขึ้นบันได 328 ขั้นสู่ พระธาตุภูษี (Phou Si Mountian)สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นดอกจำปา ภูษีนี้ หมายถึง “ภูศรี” คือเป็นศรีของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง ตั้งโดดเด่นกลางใจเมืองมีจุดชมวิวก่อนถึงยอดพระธาตุ มองเห็นวัด บ้านเรือน ทอดยาวขนานกับแม่น้ำโขงจรดปากแม่น้ำคาน ยอดสูงสุดของภูษี อยู่บนพื้นที่ราบแคบๆ ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร จะสวยมากในยามบ่ายแก่ๆ แบบนี้แสงแดแจะส่ององค์พระธาตุเป็นสีทองสุกปลั่ง มีทางเดินรอบองค์พระธาตุ สามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองหลวงพระบางได้

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารอินโดชัยน่า

หลังอาหารให้ท่านเดินเที่ยวชม ถนนข้าวเหนียว ของเมืองหลวงพระบาง หรือ ตลาดมืด ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองเป็นที่ระลึก

หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Haysoke Hotel หรือ เทียบเท่าระดับ 3 ดาว
 

05.00 น.ตื่นเช้าซักหน่อยไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตร กับชาวหลวงพระบาง ทุกๆเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง และแวะเที่ยวชม ตลาดเช้า ของหลวงพระบาง

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารนำท่านลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง (Ting Cave)ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา แล้วล่องเรือกลับ ก่อนถึงตัวเมืองหลวงพระบางแวะ บ้านช่างไหชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้าน อย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว ได้เวลาพอสมควรลงเรือเดินทางกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันณ ร้านอาหารวิชุน

บ่าย นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบท ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ น้ำตกตาดกวงชี(Kuang Xi Waterfall)ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบางชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับหลวงพระบางโดยแวะช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงามอดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้มีชื่อเสียงมาก และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า และยังมีการสาธิตให้ท่านชมด้วย

นำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง(Xieng Thong Temple)เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า “โหง่”เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดี

นำท่านเข้าชม วัดวิชุนราช (Visounnarath Temple)สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ. 2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์ (คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารมีชัยผล

หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักHaysoke Hotel หรือ เทียบเท่าระดับ 3 ดาว

 

วันที่สาม หลวงพระบาง (เมืองมรดกโลก)

05.00 น.ตื่นเช้าซักหน่อยไปร่วม ทำบุญ-ตักบาตร กับชาวหลวงพระบาง ทุกๆเช้าชาวหลวงพระบางทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบางโดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง และแวะเที่ยวชม ตลาดเช้า ของหลวงพระบาง

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารนำท่านลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง (Ting Cave)ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา แล้วล่องเรือกลับ ก่อนถึงตัวเมืองหลวงพระบางแวะ บ้านช่างไหชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้าน อย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว ได้เวลาพอสมควรลงเรือเดินทางกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันณ ร้านอาหารวิชุน

บ่าย นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบท ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ น้ำตกตาดกวงชี(Kuang Xi Waterfall)ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบางชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับหลวงพระบางโดยแวะช้อปปิ้งผ้าพื้นเมืองที่ บ้านผานม เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อ มีฝีมือในการทอผ้าอย่างสวยงามอดีตเป็นแหล่งทอผ้าถวายแด่เจ้ามหาชีวิต ปัจจุบันผ้าทอจากบ้านผานมนี้มีชื่อเสียงมาก และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า และยังมีการสาธิตให้ท่านชมด้วย

นำท่านเที่ยวชม วัดเชียงทอง(Xieng Thong Temple)เป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง มีพระอุโบสถ หรือภาษาลาวเรียกว่า “สิม” เป็นหลังไม่ใหญ่โตนัก หลังคาพระอุโบสถแอ่นโค้งและลาดต่ำลงมาก ซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น เป็นศิลปะแบบหลวงพระบาง ส่วนกลางมี ช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ ซึ่งเป็นที่สังเกตกันว่า เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้างขึ้นจึงมี 17 ขั้น ส่วนสามัญจะสร้างกันแค่ 1-7 ช่อ เชื่อกันว่าจะเก็บของมีค่าไว้ในนั้นด้วย ส่วนหน้าบัน หรือภาษาลาวว่า “โหง่”เป็นรูปเศียรนาค ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบสง่าสะอาดมีการวางผังออกแบบและบำรุงรักษาอย่างดี

นำท่านเข้าชม วัดวิชุนราช (Visounnarath Temple)สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ. 2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์ (คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง ในพระราชวังหลวงจนปัจจุบัน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารมีชัยผล

หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักHaysoke Hotel หรือ เทียบเท่าระดับ 3 ดาว

วันที่สี่ หลวงพระบาง - เวียงจันทน์ – หนองคาย – อุดรธานี - กรุงเทพฯ

เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของที่พัก

หลังอาหารออกเดินทางไปยังเวียงจันทน์ ตามเส้นทางเดิม (เส้นทางวังเวียง) ในบรรยากาศใหม่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารนางบด


หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่เมืองเวียงจันทน์ ก่อนข้ามด่านกลับประเทศไทย ให้ท่านได้ ช้อปปิ้ง สินค้าปลอดภาษี (Duty Free)เพื่อได้เป็นของฝากก่อนเดินทางกลับเมื่อได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางต่อสูสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว จ.หนองคาย ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบิน จ.อุดรธานีเพื่อเดินทางกลับ กรุงเทพฯ

20.00 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพโดย เที่ยวบินที่ TG015

21.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมประสบการณ์ใหม่ และ ความประทับใจ

Tour Price : ทัวร์ลาว สะบายดีเมืองลาว 4 วัน บินการบินไทย
Tour Price valid for travelling in :  December

Period : 3Dec-3Jan
Type of Staying
Tour Prices (Bahts/person)
Adult (Twin room) rate per person
17,900
1 Child + 1 Adult
17,900
1 Child + 2 Adults (with Bed)
16,900
1 Child + 2 Adults (no Bed)
15,900
Adult Single Room Surcharge
3,500
3rd Adult Discounted
-
 
* ราคาดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนหากสายการบินมีการเรียกเก็บภาษีน้ำมันและภาษีสนามบินเพิ่มเติม *
 


Untitled Document
จีน   | อินเดีย   |   ไทย   |   เวียดนาม   |   พม่า    |   ลาว    |   เขมร