สปันจ์ - นิตยสารโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์

สปันจ์ เบเกอรี่
เค้กไชส์จิ่ว โดดเด่นด้วยสีสัน และดีไซน์

เรื่องโดย : ดรุณี นามสุโพธิ์

กว่า 20 ปี ที่คลุกคลีในวงการธุรกิจเบเกอรี่ มายาวนาน ทำให้ภัชรา จันทร์สุวรรณ์ เล็งเห็นว่าตลาดเบเกอรี่ในเมืองไทยยังเติบโตได้อีกมาก จากพนักงานธรรมดา หันมาทำธุรกิจส่วนตัว ภายใต้ชื่อ “สปันจ์” ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่ที่มีรูปลักษณ์ และสีสันสดใสน่ารับประทาน ปัจจุบันเปิดรับตัวแทนจำหน่าย และรูปแบบแฟรนไชส์ทั่วประเทศ

สร้างจุดเด่นด้วยสีสัน

ภัชรา จันทร์สุวรรณ์ กล่าวถึงจุดเด่นของสปันจ์ว่า “ สินค้าของเรามีความหลากหลาย มีสีสันสดใส น่ารับประทาน ส่วนใหญ่เด็กๆเห็นแล้วจะชอบ เน้นเป็นเค้กชิ้นเล็กๆ หรือที่เรียกว่ามินิเค้ก ทานพอดีคำ เนื้อเค้กมีความนุ่ม และมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เน้นการออกแบบเค้กให้ดึงดูดความสนใจของลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น เน้นสีสันสวยงาม ตกแต่งหน้าเค้กด้วยเครื่องเคียงต่างๆพร้อมแต่งหน้าเค้กด้วยครีมวาดเป็นลายต่างๆ ขณะที่รสชาติมีความหอมหวาน ด้วยเคล็ดลับทำสดใหม่วันต่อวัน ไม่ใส่สารกันเสีย ที่เราทำเค้กออกมาชิ้นเล็กๆก็เพราะเรามองว่าปัจจุบันพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ต้องการความสะดวกสบายในการพกพา และเหมาะที่จะมอบเป็นของขวัญ โดยจัดใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ราคาขายก็ไม่ได้สูงมากนัก ในเรื่องของสูตร เราเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเองทั้งหมด และมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ หัวใจหลักของการทำธุรกิจ คือเรามองว่าร้านเราเปิดเป็นร้านเบเกอรี่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เรื่องของแป้งที่จะนำมาผลิต และเรื่องของเคล็ดลับที่จะทำให้เค้กอร่อยคือ เราต้องเข้าใจธรรมชาติของวัตถุดิบแต่ละชนิด เพื่อนำมาทำเป็นเค้กแต่ละชนิดให้เหมาะสม เรานำเข้าแป้งจากนิวซีแลนด์ เพราะว่ามีความแห้งสนิท เค้กที่ผลิตออกมา เก็บรักษาง่าย แช่ตู้เย็นอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ถ้าเข้าช่องฟิต เค้กอยู่ได้ 1 เดือน เวลาที่จะทานเค้ก เอาออกมาวางไว้ในอุณหภูมิปกติ เค้กจะคลายตัวคืนตัวได้เอง เพราะว่าเรามีสูตรลับของแป้งที่แม้จะนำเค้กเข้าแช่ในตู้เย็นก็ยังสามารถรักษาความนุ่มของเนื้อเค้กไว้ได้ ถ้าเป็นเค้กที่อื่นเข้าช่องฟิต เค้กจะแข็งและแห้ง แต่ของเราจะคืนสภาพเหมือนกับทำออกมาจากเตาใหม่ๆ”
ภัชรา กล่าวถึงการแข่งขันในตลาดว่า “ตอนนี้เราจะเห็นว่าในท้องตลาดมีสินค้าเหมือนเราเริ่มออกมาแล้ว ถามว่าเป็นคู่แข่งเราไหม เราไม่คิดตรงนั้น เพราะว่าเรามีจุดยืนของเรา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือสูตรต่างๆที่เราเป็นผู้คิดค้นขึ้นมาเองทั้งหมด อย่างเช่นแพ็กเก็จจิ้งเราเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นขึ้นมา เพราะในท้องตลาดไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะแพร่กระจายกันไปทั่วแล้ว เรามีจุดยืนของเราเองว่า เค้กของสปันจ์เป็นเค้กสูตรเช่นเย็น สามารถคืนตัวได้ในอุณหภูมิปกติ”
กลุ่มลูกค้าได้แก่ เด็กประถม-มัธยม,นักศึกษา,กลุ่มวัยทำงาน ไปจนถึงกลุ่มแม่บ้าน สนนราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ 7,15,18,39,49 และ 69 บาท
สินค้าของสปันจ์ประกอบไปด้วย
1.แซนวิสเค้ก
2.เค้กชิ้นรสต่างๆ
3.สปันจ์ริงค์
4.เบบี้เค้ก
5.เค้กพรีเมี่ยม
6.เบบี้คัพ
7.แชมเปนเค้ก

เปิดรับตัวแทนและแฟรนไชส์ทั่วประเทศ
ลงทุนกับสปันจ์ ได้3 รูปแบบคือ
     1.เป็นตัวแทนจำหน่าย เงินลงทุนเริ่มต้น 10,000 บาทขึ้นไป สามารถทำธุรกิจได้เลย สิ่งที่จะได้รับ คือคีออส 1 ชุด ชุดฟอร์ม ถุงสำหรับใส่เค้ก สินค้าจัดให้ทุกแบบ ตามจำนวนเงินลงทุน รูปแบบนี้เหมาะกับคนที่มีเงินทุนน้อย ไม่มีทำเล หรือมีทำเลแต่อยู่ลึก ต้องการความคล่องตัวในการทำธุรกิจ
     2.แฟรนไชส์ขนาดเล็ก เงินลงทุนอยู่ที่ 8 แสนบาท แบ่งเป็นค่าอุปกรณ์ อาทิเช่น เตา จะอยู่ที่ 6-7 หมื่นบาท แต่ว่าผลผลิตที่ออกมา จำนวนที่ได้จะไม่เท่ากับเตาขนาดใหญ่
     3.แฟรนไชส์ขนาดใหญ่ เงินลงทุนอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท ใช้พื้นที่ประมาณ 72 ตรม. แบ่งเป็นค่าอุปกรณ์ อาทิเช่น เตา จะอยู่ที่ 1-2 แสนบาท เครื่องผสม อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการตกแต่ง ค่าเช่า เงินเดือนพนักงาน ป้าย เป็นค่าแฟรนไชส์ ประมาณ 3 แสนบาท
ทำเลที่เหมาะแก่การทำธุรกิจได้แก่ แหล่งชุมชน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด อาคารสำนักงาน
ภัทรา กล่าวถึงการขยายธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ว่า “ เริ่มแรกในการทำธุรกิจ ตอนนั้นเราเน้นการเป็นตัวแทนจำหน่ายมากกว่า เพราะว่าใช้เงินลงทุนแค่หลักพัน รับสินค้าสำเร็จรูปยี่ห้อ สปันจ์จากบริษัทเราไปวางขาย ถึงเวลาสินค้าหมดมารับใหม่ไปขาย สำหรับการขยายแฟรนไชส์เกิดจากการที่เราได้เข้าโครงการอบรมหลักสูตรแฟรนไชส์พื้นฐาน และต่อเนื่องของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้เรามีทางเลือกการลงทุนให้กับผู้ที่สนใจอยากจะทำธุรกิจกับเราว่าจะเป็นตัวแทนจำหน่าย หรือว่าเป็นแฟรนไชส์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับกำลังเงินของผู้ลงทุนว่าจะมีมากน้อยเพียงใด และต้องการทำรูปแบบไหน เรารับหมด สำหรับตัวแทนจำหน่ายรายใดที่มียอดขายที่ดี และมีทำเลที่เหมาะสม เราจะผลักดันให้เขาเป็นแฟรนไชส์กับเรา เปลี่ยนจากรับสินค้าไปขาย มาสู่การ

ผลิตเอง ส่วนการคืนทุนของแฟรนไชซี่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการแฟรนไชซี่ด้วยว่าเขาจะสู้มากน้อยแค่ไหน นั่นหมายถึงว่าออเดอร์เข้ามาเยอะ เขาจะรับหรือไม่รับเท่านั้นเอง สำหรับผู้ที่เป็นแฟรนไชส์ของเราต้องรับการอบรมกระบวนการทำตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การอบเค้ก การแต่งหน้าเค้ก การจัดหน้าร้าน ฯลฯ ในระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งเหตุที่ต้องใช้เวลาอบรมนานเพราะว่าเสน่ห์ของเค้กสปันจ์ คือความประณีตบนหน้าเค้ก และความสดใหม่ ดังนั้น ผู้ที่จะมาทำธุรกิจร่วมกับเราต้องยอมรับ และให้ความสำคัญกับมาตรฐานนี้ด้วย”

คุณสมบัติผู้ร่วมลงทุน
1.ต้องมีใจรักในงานบริการ ถ้าทำธุรกิจแล้วไม่มีใจรัก การจะประสบความสำเร็จค่อนข้างที่จะลำบาก 2.มีเงินลงทุน
3.เป็นนักบริหาร จัดการเป็นเบื้องต้น ต้องมีเวลาให้ธุรกิจ ในช่วงแรก จะได้รับรู้ปัญหาต่างๆได้ พอระบบเรียบร้อยแล้ว สามารถดูอยู่ห่างๆได้ เพราะว่ามีคนมาทำแทนแล้ว

สุดท้ายภัทรา กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจเบเกอรี่ว่า “จะเพิ่มความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนยุคใหม่ นิยมกินเบเกอรี่กันมากขึ้น จะเห็นว่าสมัยนี้ผู้ชายชอบกินเบอรี่เพิ่มมากขึ้น กว่า 30% แต่ทั้งนี้คุณต้องทำสินค้าให้มีคุณภาพ และรสชาติที่ดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญราคาต้องไม่แพงมาก เราเชื่อว่าถ้าคุณทำได้อย่างนี้ ลูกค้าจะยอมรับ ผลที่ย้อนกลับคืนมาคือ ความสำเร็จในการทำธุรกิจของคุณ”