กร  รัชไชยบุญ
   ต่อยอด สีฟ้า สู่ BlueSpice
  

   
กร รัชไชยบุญ  กับตำแหน่ง Kitchen Manager  บริษัท ห้องอาหารสีฟ้า จำกัด เป็นรุ่นที่ 3 ของตระกูลผู้ก่อตั้งร้านอาหารสีฟ้า ได้เข้ามาร่วมพัฒนาและขยายธุรกิจร้านอาหาร จนกลายเป็นBlueSpice  ร้านอาหารนานาชาติ  และทำหน้าที่เสมือนแม่ครัวให้สถานประกอบการอื่นๆ เช่น สปอร์ตคลับ หรือเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ แต่ธุรกิจร้านอาหารนี้ ต้องการความรู้และเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้ผู้บริหารต้องมีความรู้และเป็นนักชิมและปรุงอาหาร 
    นั่นทำให้ กร ต้องหาเดินทางไปแสวงหาความรู้ด้านการปรุงและชิมอาหารเพิ่มเติมด้านการครัวจากสหรัฐอเมริกา เพื่อกลับมาพัฒนา "สีฟ้า"ก่อนเข้ามารับช่วงธุรกิจครอบครัว กร เรียนจบสถาปัตยกรรม ใช้เวลาทำงานหนึ่งปีในวิชาชีพ เป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน ระหว่างนั้นอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้อง ตัดสินใจเลือกเรียนระหว่าง การตลาด  สถาปัตยกรรมหรือ อาหาร จนสุดท้ายคิดตก ว่าเขาไม่มีทางเลี่ยงที่จะไม่รับช่วงกิจการต่อ  ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เขาเลือกที่จะเรียนสิ่งที่ขะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับธุรกิจครอบครัว คืออาหาร 
     เขาเล่าว่า ในอดีดเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยจับมีดหรือมีความรู้พื้นฐานด้านการครัวหรืออาหารมาก่อน และโชคดีที่เขามีประสบการณ์ในการชิมทำให้พัฒนาการด้านการปรุงอาหารไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป  ทุกวันนี้เขายังเรียนรู้เมนูของร้านสีฟ้าได้ไม่ครบถ้วนเนื่องจากสีฟ้า มีเมนูอาหารไทย-จีนมากกว่า 200 ชนิด ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะรู้และเข้าใจวิธีการปรุงให้ครบถ้วน 

     เขา เข้ามาทำการบุกเบิก ธุรกิจร้านอาหาร ในสปอร์ตคลับและเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ ภายใต้ชื่อ" BlueSpice  " คอนเซ็ปต์รับหน้าที่แม่บ้านทำอาหารตามที่เจ้าของร้านต้องการ ตอนนี้เปิด 5 สาขาอยู่ในเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์เซ็นเตอร์พร้อยท์ ของคิว เฮ้าส์ และอีก หนึ่งสาขาตั้งอยู่ที่ราชกรีฑาสโมสร ใช้เวลาขยายตัว  6 ปี เป็นธุรกิจที่เติบโตรวดเร็วและขยายตัวได้ง่ายกว่าร้านอาหารสีฟ้า ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 18 สาขา ใช้เวลาขยายตัว มากกว่าสิบปี
 การเข้าสู่ธุรกิจของ BlueSpice เป็นการดึงจุดแข็งของสีฟ้าที่เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารออกมา โดยความแตกต่างระหว่างสีฟ้ากับ BlueSpice  อยู่ที่สีฟ้าเป็นร้านอาหารไทยและจีน ส่วนร้านBlueSpice รับทำอาหารนานาชาติ  เป็นการเติมเต็มความเชี่ยวชาญด้านอาหารให้สีฟ้า ตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าสีฟ้าเชี่ยวชาญด้านอาหารทุกชนิด
 อย่างไรก็ตามสีฟ้ายังคงจุดยืนเดิมคือเป็นร้านอาหารที่ขายอาหารที่พบได้ทั่วไป แต่รสชาติต้นตำรับ เพราะปรุงจากวัตถุดิบที่ผลิจขึ้นเอง เช่น ซอสที่ใส่ในเย็นตาโฟ เส้นบะหมี่  รวมถึงกรรมวิธีในการปรุง เป็นสิ่งที่สืบทอดต่อๆกันมานับเจ็ดสิบปี 
 
 "อยากให้คนไทยเรียนรู้วิธีการเลือกกินอาหารใหม่เพราะในวันนี้คนไทยเลือกกินอาหารไม่เป็น แตกต่างจากอเมริกาและประเทศอื่นๆ เช่น แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารราคาถูกและวางขายข้างถนนเป็นร้านเล็กๆ ในอเมริกา แต่คนไทยต้องจ่ายเงินซื้ออาหารชนิดนั้นในราคาแพง หรืออาหารญี่ปุ่นที่นิยมตอนนี้เป็นอาหารธรรมดามาก  หากคนไทยรู้จักอาหารเป็นอย่างดีคิดว่าร้านอาหารไทยคงแจ้งเกิดได้ไม่ยากเพราะคนไทยที่ปรุงอหารได้ดีมีอีกเป็นจำนวนมาก"
 ตอนนี้ขยายธุรกิจได้ครบทั้งวงจรตั้งแต่มีร้านอาหาร  รับส่งหรือดีลีเวอรี่  รับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ และกำลังพัฒนาให้ลูกค้าซื้ออาหารไปปรุงกินเองที่บ้านได้ เริ่มจากเมนูที่ปรุงแบบง่ายๆ เช่น บะหมี่
 ทั้งนี้ จุดยากของธุรกิจนี้คือการควบคุมคุณภาพอาหารให้มีรสชาติคงที่ ต้องพัฒนาคนปรุงอาหารให้เก่งและเข้าใจวิธีการปรุงแบบดั้งเดิม คงต้องปลุกปั้นและพัฒนาร้านอหารสีฟ้าและร้านน้องใหม่อย่าง BlueSpice ให้อาหารมีคุณภาพดีและคงที่ เป็นภาระกิจของคนรุ่งที่ 3 ของสีฟ้าที่ต้องพัฒนาให้ต่อเนื่อง โดยมีกร รัชไชยบุญ เป็นพ่อครัวทำหน้าที่ปรุงอาหารและปรับสูตรที่ใช้ในการทำธุรกิจร้านอาหารให้ลงตัว มีรสชาติกลมกล่อม
 นี่ เป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาสานและต่อยอดธุรกิจคนรุ่นเก่า เป็นคนรุ่นที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง

 

 

รับสมัครงานด่วนหลายตำแหน่ง more...
 
26 ก.พ.-1 มี.ค. 52 พบกับงานซื้อ-ขายธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 52 งานโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ครั้งที่ 13....
 
แบบสอบถามแฟรนไชส์ซี่ (รับสิทธิ์สมัครสมาชิกนิตยสารฯ ฟรี!! 1 ปี)
ถ้าไม่สามารถอ่านเอกสารได้
ดาวน์โหลดโปรแกรมที่นี่....
            
 
 
 

บริการงานเว็บไซค์

 

 
 
- ditto world
- music palace
- pompadour
- blink
- สังขยา กาแฟ
- big move
- โจเอลลี่ โมอีส
- จันทร์สว่าง