DADDY DOUGH
โดนัทสู้เพื่อพ่อ ก้าวสู่ธุรกิจยุคที่ 2


 เรื่องโดยเนรมิต แสนคำเพิงใจ 
 
 
      “DADDY DOUGH ” “หมายถึงเป็นสูตรแป้งโดนัทของคุณพ่อผมได้ศึกษาค้นคว้า และคิดค้นจนได้แป้งโดนัทสูตรลับเฉพาะมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 จะตั้งเป็นโดนัทเลยก็ไม่ได้เพราะว่าในอนาคตคงจะไม่ได้ขายโดนัทอย่างเดียว ส่วนคอนเซ็ปท์ก็จะออกเป็นแนวโฮมสไตล์  สี แบบร้าน ก็จะเน้นไปที่ความเป็นพรีเมี่ยม” นี่คือคำบอกเล่าของนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง คุณปีเตอร์ ทวีผลเจริญ เจ้าของธุรกิจร้านโดนัทแสนอร่อย

     เขาเล่าให้ฟังถึงประวัติส่วนตัวและที่มาของโดนัท DADDY DOUGH ว่า “หลังจากที่คุณพ่อ –คุณแม่ ได้แต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ที่แอลเอ ผมก็เกิดที่นั่น ซึ่งตอนนั้นครอบครัวก็ได้เปิดร้านเบเกอร์รี่เล็กๆอยู่ที่แอลเอ แล้วพอผมอายุได้ 1 ขวบก็ย้ายครอบครัวกลับมาที่กรุงเทพฯ ร้านเบเกอร์รี่ที่อยู่ที่นั้นก็ขายกิจการไป ผมก็ไปเรียนปริญญาตรีการโรงแรมที่ยูนิเวอร์ซิตี้ออฟฮาวาย หลังจากที่จบปริญญาตรีที่นั้น ก็ได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ ก็มาทำงานเป็นฝ่ายขายเกี่ยวกับซอฟแวร์เครือข่ายโทรศัพท์ ระหว่างที่ทำงานประจำไป ร้าน DADDY DOUGH  ก็ได้เปิดแล้ว ในวันแรกที่เปิดคือวันที่ 14 สิงหาคม 49 ผมก็ได้มาช่วยบ้าง ก็ได้เอาสูตรแป้งที่เคยมีอยู่แล้วที่แอลเอมาทำ ก็พัฒนาอยู่ 2 ปีกว่าที่สูตรจะลงตัว ซึ่งตอนนั้นร้านแรกคืออยู่ที่สีลม ซึ่งกั้นแบ่งจากร้านอาหารของครอบครัว แค่ประมาณห้องแถวเดียว เผื่อขายไม่ได้ก็จะได้ไม่ต้องลงทุนเยอะ ตอนเปิดร้านแรกๆก็ไม่ค่อยมีลูกค้าเยอะเท่าไหร่  แต่พอนานๆเข้า ลูกค้าก็เริ่มเยอะขึ้น  คุณพ่อเลยให้ลาออกจากที่ทำงานเดิมมาดูแลช่วยกัน”
      “ตอนนั้นที่ทำหลักๆก็จะเป็นคุณพ่อ รูปแบบร้านรูปแบบโดนัทก็จะเป็นรูปแบบธรรมดา ไม่ได้มีคอนเซ็ปท์อะไร พอเริ่มเห็นว่าไปได้ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจริงๆ เราก็เลยจ้างคนที่มาออกแบบคอนเซ็ปท์ให้เรา เราก็มองว่าร้านแรกของเราจะเป็นแบบไหน ถ้าทุกอย่างจะเป็นแบบโมเดิร์นมากจะทำอย่างไร เพราะในเมืองไทยก็มีร้านโดนัทอยู่หลายเจ้า เราคงสู้เขาไม่ไหว เพราะเขามีสาขาเยอะแล้ว สุดท้ายเราก็มาสรุปกันว่า โดนัทของเรามันควรจะชื่อว่า DADDY DOUGH น่าจะเป็นร้านเบเกอร์รี่สไตล์โฮมเมดมากกว่าที่จะเป็นแบบโมเดิร์น เราก็เลยโละแบบพวกนั้นทิ้ง แล้วก็ออกแบบกันเอง 
     ส่วนการพัฒนาสินค้า เราก็จะช่วยๆกัน แต่ส่วนมากก็จะเป็นคุณพ่อ เพราะถ้าไม่มีคุณพ่อคงไม่มี DADDY DOUGH วันนี้หรอก วันนี้เราก็พอใจมาก มีคนเอาโดนัทเราไปเปรียบเทียบกับ Krispy Kreme เลย แสดงว่าโดนัทเราก็ใช้ได้ ในอินเตอร์เน็ตก็จะมีคนเอาโดนัทของเราไปเขียนกันเยอะ อย่างในพันทิป ห้องก้นครัว ในไดอารี่ ในบล็อกต่างๆ ถ้าเชิร์จคำว่า “DADDY DOUGH” ในกูเกิ้ล ก็จะเจอเยอะมาก ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง  เนื่องจากว่าสินค้าของเรามีความแตกต่าง อย่างน้อยเราก็มีจุดยืน ทุกวันนี้ก็พอใจ และไม่นึกว่ามันจะมาได้ถึงขนาดนี้ อย่างแป้งโดนัทเมื่อปีนี้ กับปีที่แล้วก็ไม่เหมือนกัน เพราะเราพัฒนาให้ดีขึ้นตลอด” คุณปีเตอร์กล่าว
 กว่าจะประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ได้ต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน เขากล่าวว่า “กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราก็จะเน้นไปที่กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ไม่ใช่วัยรุ่น เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ออกมาก็จะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ตอนแรก คิดว่าจะเปิดเป็นร้านเล็กๆ แต่ต่อมาก็ได้ขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น แต่ก็ถือว่าไม่ใหญ่มาก ที่ไหนที่มีสถานที่อำนวยเราก็จะทำครัวเปิด คือทำโดนัทออกมาตรงนั้นเลย”
 โดนัทของ DADDY DOUGH มีความหลากหลายของโดนัทมาก ตอนนี้เรามีอยู่ทั้งหมด 45 หน้า แป้งก็จะมีอยู่ถึง 5 ชนิด ก็จะมี วานิลลา ช็อกโกแล็ต กาแฟ ซินนาม่อน และผักโขม แป้งผักโขมก็จะเน้นไปทางสุขภาพ “แป้งโดนัทของเวลาทอดมันจะลอย ไม่อมน้ำมัน และมีหลากหลายชนิด แป้งโดนัทของเราจะเป็นแป้งโดนัทยีสต์อย่างเดียว มันจะเนื้อนุ่มๆ มันจะไม่เหมือนโดนัทแป้งมันจะเนื้อแน่นๆ อย่างแป้งผักโขมเราก็จะเอาผักโขมปั่นลงไปในแป้งเลย ซึ่งแตกต่างจากเจ้าอื่นในท้องตลาด เครื่องดื่มเราก็จะมี ชา ชาพันช์ ชามะนาว ชาพีช กาแฟเราก็จะมีกาแฟร้อน กาแฟเย็น”

 “สินค้าขายดีคือ โดนัทช็อกโกแล็ต และดับเบิ้ลช็อกโกแล็ต อันนี้คือลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน แต่ถ้าเป็นผู้สูงอายุก็จะเป็นกลุ่มธัญพืช ซีเรียล มะพร้าว งาขาว หรือผักโขม แต่ถ้าเป็นกลุ่มเด็กก็จะเป็นโดนัทรส สตรอเบอร์รี่ ผลไม้รวม สับปะรด กล้วย และพวกแยมทั้งหลาย ลูกค้าหลักเราเป็นผู้หญิงก็จริง แต่เราก็เก็บหมดทุกกลุ่ม”
 การผสมแป้งของ DADDY DOUGH มีการควบคุมเพื่อให้ได้แป้งโดนัทที่มีมาตรฐานทุกชิ้นที่วางขาย “การผสมแป้งเราจะผสมที่โรงงานกลาง เราจะมีโรงงานกลางผสมแป้ง เราจะไม่ให้คนผสมแป้ง เพราะมันจะไม่เท่ากัน วิธีการทอดเราก็จะมีเตาทอดที่เราออกแบบมา ว่าต้องใช้ความร้อนเท่าไหร่ น้ำมันที่ต้องใช้ ระยะเวลาที่ทอด พนักงานในร้านก็แค่คอยทอดและตกแต่งหน้าโดนัทเท่านั้นเอง ช่วยลดภาระลงได้เยอะเลย” 
     การวางแผนในปัจจุบันและอนาคตของ DADDY DOUGH คุณปีเตอร์มีมุมมองว่า “ตอนนี้เรียกได้ว่ามีผลกระทบโดยตรงเลยกับภาวะเศรษฐกิจ เพราะว่าวัตถุดิบต่างๆ ทั้งแป้ง น้ำตาล น้ำมัน ขึ้นราคาทั้งหมดเลย อีกอย่างวัตถุดิบเราใช้ของดีทั้งหมด เราก็ต้องมีวิธีรับมือก็คือ เราก็กำลังเร่งการขายโดยเพิ่มกำลังฝ่ายขาย และเพิ่มการส่งเดลิเวอร์ลี่ขึ้นมา ตอนนี้ก็กำลังทำอยู่ เวลาเราจะจัดกิจกรรมเพื่อการตลาด เราก็ใช้เป็นการแลกเป็นโดนัทของเราแทน
     เรื่องการจัดโปรโมชั่น เราก็จะมีการจัดโปรโมชั่นอยู่บ่อยๆ และต่อเนื่อง อย่างโปรโมชั่นตอนนี้ก็จะมี โดนัทกล่อง 6 ชิ้น 109 บาท กล่อง 12 ชิ้น 215 บาท ตอนที่เปิดร้านใหม่ เราก็จะแจกคูปองให้ไปรับโดนัทฟรี ประมาณนี้ หรือถ้าซื้อโดนัทครบ 6 ชิ้น จะได้รับเครื่องดื่ม 1 แก้วฟรี ต่อไปก็จะมีการทำโปรโมชั่นบัตรต่างๆ แล้วนำคะแนนมาแลกโดนัทได้ฟรี หลังจากที่ทำโปรโมชั่นก็ได้ผลตอบรับที่ดี ก็ทำให้คนรู้จักเราเยอะขึ้น”
      DADDY DOUGH เริ่มที่จะมีการขยายสาขา และจะขยายสาขาเป็นแฟรนไชส์ด้วย ถ้าจะขยายสาขาเราก็จะพยายามควบคุมคุณภาพให้มันเหมือนเดิม องค์ประกอบที่ทำให้เกิดความสำเร็จเกิดจากองค์กร เราคิดว่าเราได้ทีมงานที่ดี ตอนแรกที่เราเปิดขายเราก็ขายเฉยๆ ไม่มีการทำการตลาด ไม่มีการแจกใบปลิว เรามาเริ่มทำจริงๆ จังๆ ตอนเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็จะเปิดตัวแฟรนไชส์ประมาณเดือน กรกฎาคม 51 นี้   สำหรับคนที่ต้องการซื้อแฟรนไชส์ของเราไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มากก็ได้ เพราะแป้งที่เราทำมาให้ เป็นแป้งสำเร็จรูปไม่ต้องมาผสมเอง แค่เอาลงทอดก็เสร็จแล้ว เตาทอดก็เป็นเตาทอดโดนัทโดยตรง”
      “มุมมองในเรื่องแฟรนไชส์ของผมคือ คนขายแฟรนไชส์มันก็เป็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจทางหนึ่ง สำหรับคนที่ซื้อแฟรนไชส์ก็เหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลย แต่ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง”
     รูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์มีรูปแบบการลงทุน 2 รูปแบบคือ เป็นแบบร้านและแบบคีออส
“การลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่าจะมากจะน้อยแค่ไหน อย่างเช่นที่ตลาดบองมาเช่ เขาได้ 40 ตารางเมตร สยามพารากอนได้ 30 ตารางเมตร ที่สยามพารากอนพื้นที่เล็กกว่าแต่มีเครื่องทอด แต่บองมาเช่าพื้นที่ไม่อำนวย
     งบประมาณในการลงทุนแฟรนไชส์ตอนนี้เรายังขึ้นๆลงๆอยู่ แต่เราพยายามทำตัวเลขให้คงที่ก่อน เราพยายามจะให้ทุกที่เขาผลิตเองได้ เขาจะได้ของที่สดใหม่ตลอดเวลา สมมุติว่าสาขานี้ตอนเช้าขายได้น้อย ขายได้แค่ 100 ชิ้น เราก็หยิบแป้งแค่ 100 ชิ้น ก็ไม่ต้องทอดทั้งหมด เราสามารถคำนวณดูได้เลยจากหน้าร้านในตอนนั้น
     ทำเลส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเป็นห้างสรรพสินค้า ขอให้มีผู้คนสัญจรไปมาค่อนข้างเยอะหน่อย ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์ ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีการศึกษาสูงๆ ขอเพียงแค่มีความตั้งใจ ที่จะทำธุรกิจกับเรา เราอยากจะขายแฟรนไชส์ตอนที่ทุกอย่างมันนิ่งแล้ว
     ข้อดีของร้านโดนัทคือ ลูกค้าซื้อฝากกันได้ แต่ถ้าเป็นไอศกรีมจะต้องทานกันเดี๋ยวนั้นเลย แล้วร้านไอศกรีมจะต้องใช้พื้นที่เยอะกว่า เพราะลูกค้าต้องนั่งทานที่นั้นเลย แต่โดนัทสามารถซื้อกลับบ้านได้เลย พื้นที่จะไม่เปลือง ที่สำคัญมันขายได้เร็วและคล่องกว่า ก็เลยเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับการทำร้านโดนัท” เขากล่าว

     หลักการบริหารงานแบบคนรุ่นใหม่ เขากล่าวว่า “การศึกษาข้อมูลของธุรกิจแบบคนรุ่นใหม่คือ อ่านหนังสือ ดูข่าว เปิดอินเตอร์เน็ต รับฟังความคิดเห็นจากคนอื่น เราจะทำหรือไม่ทำมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ข้อมูลเดี๋ยวนี้มันเร็วมาก เราต้องหาโอกาสหาข้อมูลให้ได้เยอะ อย่าง DADDY DOUGH เราก็เปิดเว็บไซท์ดูกระทู้อยู่เป็นประจำ เราจะเปิดดูคอมเม้นต์ว่าเขาเขียนอะไรกันบ้าง มีอะไรติ เราก็เอามาปรับปรุง อย่างเว็บพันทิป ห้องก้นครัว ผมก็เข้าไปดูประจำ แต่เราไม่ได้ไปปั่นกระทู้นะครับ การบริหารงานร้านผมก็จะดูแลทั้งหมด ยกเว้นการผลิต จะให้คุณพ่อดูแล ธุรกิจของเรามันเป็นธุรกิจครอบครัวจริงๆ แต่การบริหารเราจะบริหารแบบสากลมากขึ้น ก็จะไม่มีแค่ผมคนเดียว หลักการทำงานของผมคือ จะให้โอกาสกับทุกๆคน จะต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า ซื่อสัตย์กับลูกน้อง ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดเวลา”
     คุณปีเตอร์ฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่า “ถ้าจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ควรใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ เซิร์จดูก่อนก็ได้ว่าอยากรู้อะไร หรือถ้ามีโอกาสไปต่างประเทศก็จะดี เพราะจะได้เห็นได้รู้ว่าเขาทำอะไร แบบไหนกันบ้าง แล้วเราก็จะเอามาพลิกแพลงได้ เอามาเป็นไอเดีย ถ้าเราจะทำธุรกิจอะไร เราต้องมีจุดยืนของเรา ไม่ใช่ว่าเขาทำอะไรออกมาก็ทำตาม ต้องเป็นไอเดีย และเป็นเอกลักษณ์ของเราเอง มันทำให้เราเห็นว่าเราไม่ได้ไปก็อปปี้คนอื่นเขามา การเป็นเจ้าของธุรกิจเองมันก็ต้องเหนื่อยกว่าปกติเป็นธรรมดา เพราะตอนที่ทำงานประจำอยู่เราก็จะดูแลแค่ยอดขาย หรือตามฝ่ายตัวเอง ดูแลลูกค้า มันเป็นการรับผิดชอบแค่จุดเดียว แต่พอมาทำธุรกิจเองมันต้องดูรอบตัว ตั้งแต่แรกเริ่มทำร้าน ดูการออกแบบร้าน ดูบุคลากร ดูการตลาด ดูทุกอย่าง และต้องรู้รอบตัวเพื่อไม่ให้ใครมาหลอกเราได้”
      สำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังที่จะเริ่มสร้างธุรกิจ เราจะต้องรู้ตัวเอง และรู้จักกลุ่มลูกค้า ต้องทำการบ้านให้เยอะ ต้องสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวเองให้ได้ ไม่จำเป็นต้องไปตามใคร ซึ่งสินค้าในปัจจุบันนี้ไม่ได้แข่งกันที่ราคาแล้ว แต่แข่งกันที่คุณภาพ และประสบการณ์ของลูกค้า เพราะถ้าสินค้าดีจริงลูกค้าต้องบอกต่ออย่างแน่นอน อย่างที่เกิดกระแสการบอกต่อในอินเตอร์เน็ตตอนนี้ ผู้อ่านทุกท่านลองเอาประสบการณ์ใหม่ๆของร้าน DADDY DOUGH ไปปรับใช้ก็ได้ครับ เพราะการศึกษาที่ดีที่สุดคือการศึกษาจากประสบการณ์คนที่สำเร็จแล้ว.
รับสมัครงานด่วนหลายตำแหน่ง more...
 
26 ก.พ.-1 มี.ค. 52 พบกับงานซื้อ-ขายธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 52 งานโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ครั้งที่ 13....
 
แบบสอบถามแฟรนไชส์ซี่ (รับสิทธิ์สมัครสมาชิกนิตยสารฯ ฟรี!! 1 ปี)
ถ้าไม่สามารถอ่านเอกสารได้
ดาวน์โหลดโปรแกรมที่นี่....
            
 
 
 

บริการงานเว็บไซค์

 

 
 
- ditto world
- music palace
- pompadour
- blink
- สังขยา กาแฟ
- big move
- โจเอลลี่ โมอีส
- จันทร์สว่าง