Revolutionary Press Agency : Online Journal and News Agency for Peace
สำนักสื่อปฏิวัติ  : วารสารข่าวออนไลน์เพื่อสันติภาพ
8 มิ.ย. 2554 กองหน้าประชาชนรุ่นใหม่ อนุสรณ์ สมอ่อน ตอบคำถามคาใจทำไมต้องปฏิวัติประชาธิปไตย? 
 
รายงานข่าวสันติภาพ 
New Spiritual World Order กระแสสากลชี้ชัดใช้“ธรรม” ฝ่าวิกฤตสู่การจัดระเบียบโลกใหม่
 
โดย  ทีมข่าวสันติภาพ
สำนักสื่อปฏิวัติ - Revolutionary Press Agency (RPA) 
กรุงเทพ : 15 ก.ย. 2552

         

 

 
             ผู้สื่อข่าวสันติภาพรายงานว่ากระแสความต้องการคุณธรรม จริยธรรมในตะวันตกกำลังบ่งชี้ว่าการแสวงหาสัจธรรมและคุณค่าการมีชีวิตอยู่อย่างสงบสันติคือสิ่งที่สังคมต้องการ   ปรากฏการณ์ใหม่ในรอบศตตวรรษนี้เป็นผลมาจากความล้มเหลวจากระบบเศรษฐกิจและสภาพการตกงาน    ประมวลข่าวของทีมข่าวสันติภาพระบุว่ากระแสของการตกผลึกทางความคิดครั้งยิ่งใหญ่ในบรรดาปัญญาชนตะวันตกเกิดจากการทบทวนหาสาเหตุของความผิดพลาดตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาของระบบเศรษฐกิจปลาใหญ่กินปลาเล็กแบบโลกเสรีนิยมภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์อันไร้ขอบเขต
 

“We are all under the illusion of free speech and humanitarian freedom ... and even the illusion of voters ability to actually change things ...”
 " เราอยู่ในภาพลวงตาของเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีและสิทธิมนุษยชน...และยิ่งไปกว่านั้นคือภาพลวงตาที่ว่าการใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆได้จริง ”
 
              นักเขียนบล็อกเกอร์ชาวอเมริกันคนหนึ่งสะท้อนปัญหาของประเทศตนไว้ดังกล่าว   นักเขียนเหล่านี้มีเครือข่ายสังคมของกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกันที่ต่างใช้อินเตอร์เนตเป็นเครื่องมือสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับมิตรต่างประเทศ    นักเขียนบล็อกเกอร์ส่วนใหญ่ใช้พื้นที่ในหน้าบล็อกในสังคมออนไลน์แสดงจุดยืนและทัศนะต่อปัญหาสังคมและปัญหาโลกอย่างกว้างขวางนับแต่เกิดเหตุการณ์ 9/11 ที่นิวยอร์กเป็นต้นมา   นักวิพากษ์สังคมอเมริกันวิพากษ์วิจารณ์สังคมตนเองว่า ถูกครอบงำด้วยสื่อทีวีมายาวนานเกินไปและพยายามแสวงหาทางออกใหม่ด้วยการเปลี่ยนแปลงค่านิยมใหม่  จากโลกวัตถุนิยมสู่โลกของคุณธรรม
 
               ปรากฏการณ์นี้เด่นชัดขึ้นในยุคเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีการแสดงความเห็นสะท้อนความเป็นไปในสังคมตนเองและประเทศเพื่อนบ้านอย่างเปิดเผย   เครือข่ายไซเบอร์ทั้งในเฟสบ็ค มัลติพลาย ไฮไฟว์ต่างเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงข่าวสารและกระแสความคิดที่รวดเร็วฉับไว  ที่สำคัญกลุ่มก้อนของผู้ฝักใฝ่สันติภาพและพึ่งพิงศาสนาปรากฏตัวเห็นชัดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน บทความบางชิ้นสะท้อนว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ประวัติศาสตร์ชาติตนได้ และรู้สึกละอายในความจริงที่ได้ค้นพบว่า  บรรพบุรุษตนสร้างชาติขึ้นมาด้วยการขโมย มาจากชาติอื่น  ที่เห็นเด่นชัดมากคือการเรียกร้องสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยคำตอบของการนำทางจิตวิญญาณผ่านระบบคุณธรรมหรือความเชื่อในคุณงามความดีของศาสนาแต่ละศาสนานั่นเอง
 
              ในขณะที่นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคมในประเทศไทยยังคงอ้างหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคและเสรีภาพทางโลก มาเป็นความชอบธรรมในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง   สังคมตะวันตกโดยเฉพาะอเมริกันเองที่ทำหน้าที่ส่งออกแนวคิดเรื่อง freedom of  speech and humanitarian aids เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการปกป้องสิทธิมนุษยชน  กลับยืนยันว่าที่ผ่านมานั้นไม่มีจริง เป็นเพียงภาพมายาและภาพลวงตาเท่านั้น  

               นักทฤษฎีสันติปฏิวัติในประเทศไทยกล่าวว่านี่คือปรากฏการณ์ใหม่ในรอบศตวรรษของประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่สังคมมนุษย์จะเริ่มมีความเห็นที่สอดคล้องร่วมกันได้ 
 
               “ ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญหรืออุบัติเหตุ  แต่สังคมโลกกำลังเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด  กว่าสังคมจะกลับมาสู่ความเห็นถูก สอดคล้องกันได้  ต้องใช้เวลา สะสมการเรียนรู้ว่าทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์เอง“
 
 
                ทบทวนบทบาทย้อนรอยประวัติศาสตร์
 
 
“….the Indians taught the pilgrims (who were not even the first ones here, even if you don't count the indians) to live off the land and got them through winter without starving to death. Their reward, our diseases which they could not fight off, and then our systematic enslavement and taking of their land away from them through a series of bloody lies and broken treaties. But we'll see those 'happy thanksgiving blogs,' start cropping up. I have no thanks for that kind of behavior. I have shame. I don't want to 'feel good about it.' I want to feel shame. ”
 
                          
                ตัวอย่างหนึ่งในเว็บบล็อกปัญญาชนอเมริกันที่เผยแผ่กวีนิพนธ์ของ Ezra Pound, William Butler Yeats และ T.S. Elliot กวีในยุคประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ต่างสะท้อนภาพความไร้ศีลธรรมของชาติตนเอง ทั้งกล่าวว่า เขาไม่สามารถเฉลิมฉลองชัยชนะที่ได้มาจากการโกหกหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบชนเผ่าอินเดียนแดงในทวีปอเมริกาโดยบรรพบุรุษตนเองได้

               สิ่งที่น่าสังเกตคือนักกิจกรรมทางความคิดที่สื่อสารด้านคุณธรรมเพื่อแก้ปัญหาโลก ได้นำข้อมูลมาตีแผ่อย่างต่อเนื่องถึงระบบการเงินในอเมริกาที่เต็มไปด้วยการกระทำที่ผิดกฎหมายและกฎศีลธรรม และทฤษฎีการสมคบคิดเพื่อยึดครองโลก (Conspiracy  Theory) พร้อมการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อแฉขุมข่ายทางธุรกิจและระบบเศรษฐกิจอเมริกันที่ล้มเหลวจากจุดยืนที่ผิดพลาดอันเป็นผลมาจากวิธีคิดที่ผิด    พวกเขากล่าวโทษความพยายามสร้างการจัดระเบียบโลกใหม่ New World Order ว่าเป็นความพยายามที่ล้มเหลวเพราะเป็นความต้องการที่เกิดจากความไร้ศีลธรรมของชาติมหาอำนาจต่อประเทศเล็กๆ ซึ่งถือว่าเป็นการผิดต่อมนุษยชาติ  
 

              “ The Bible says that people reap what they sow. In this case the American people, due to their slothfulness, their choosing to live in denial, and choosing to believe lies year after year while selling their children's future into economic enslavement and bondage to a handful of banksster-gangsters that remain in the background manipulating each new crop of political leader, election after election,- are in the process of reaping what they have sown over the last 97 years.”
   
            นักเขียนบล็อเกอร์สะท้อนความเห็นดังกล่าวซึ่งแปลความได้ว่าชาวอเมริกันเลือกที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่เผชิญกับความจริงด้วยการเลือกที่จะเชื่อการโกหกในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้ลูกหลานของตนตกเป็นทาสเศรษฐกิจในเงื้อมมือของมาเฟียนักการธนาคารที่มีพื้นฐานมาจากการปั่นหัวผู้นำทางการเมือง การเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่ามาตลอดระยะเวลากว่า 97 ปี  แตกต่างจากหลักคำสอนในคัมภีร์ไบเบิลอย่างสิ้นเชิง

                “สังคมอเมริกันกำลังเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ผู้คนตกงานและพวกเขากำลังต้องการที่พึ่งทางใจอย่างมาก”  นักเขียนเว็บบล็อก นำคลิปวีดีโอเพื่อการศึกษาออกมาเผยแพร่เรื่องแนวคิดปฏิเสธการบริโภคทีวีในอเมริกาโดย นักจัดรายการคนดังกล่าวกล่าวประณามความล้มเหลวของวัฒนธรรมดูทีวีของอเมริกาที่ทำให้คนในชาติเสพแต่สิ่งที่ไร้ประโยชน์และตกอยู่ในระบบบริโภคนิยมอย่างไม่น่าให้อภัย”  พวกเขากำลังนำเสนอทางออกใหม่ให้กับสังคมด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
 

                 สัจนิยมและคำทำนาย
 
 
               “ต่างชาติกำลังต้องการสัจจะ พุทธศาสนาเป็นสัจนิยม  พุทธศาสนาจะให้คำตอบกับตะวันตกได้ “ พระถวิล สุทธจิตโตแสดงทัศนะเรื่องนี้ไว้  ระหว่างให้สัมภาษณ์ทีมข่าวสันติภาพของสำนักสื่อสันติปฏิวัติ

               สำหรับชาวพุทธแล้วปรากฏการณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเนื่องจากครั้งหนึ่ง พระสงฆ์เวียดนามในนิกายมหายาน ติช นัทฮันห์ที่ได้รับการยอมรับในยุโรปได้เคยกล่าวไว้ว่า วันใดวันหนึ่งของชาวตะวันตกจะรู้สึกละอายใจในสิ่งที่บรรพบุรุษตนเองได้กระทำไว้   และแน่นอนที่สุดต่อชาติเอเชียที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นชาตินักล่าอาณานิคมมาก่อนย่อมสะท้อนแง่มุมนี้ออกมาด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากกัน 
 

“….there is a possibility that by 2012 they can be a major shift in social and economic thinking especially with internet & other technology; say some big conflicts occur and the repressive regime of north Korea, Iran, Burma and other regimes collapse...also, religious institutions coalase into one and humanity learn to live like what John Lennon envisage in his song! "
 
 
 
             เว็บบล็อกในอเมริกานอกจากจะสะท้อนบทกวีและแนวคิดเพื่อสังคมอุดมการณ์แล้วยังได้นำคำทำนายของชนเผ่ามายาซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองอินเดียนแดงดั้งเดิมจากกัวเตมาลามาเผยแผ่  คำทำนายดังกล่าวระบุว่า สังคมโลกจะกลับคืนสู่สันติสุขในปี ค.ศ.2012 วีดีโอคลิปดังกล่าวแสดงภาพชนพื้นเมืองที่พยายามสื่อสารให้ผู้คนหยุดความหวาดกลัวต่อนาคตที่ยังยังมาไม่ถึง   http://clutch69.multiply.com/video/item/11  คำทำนายดังกล่าวสอดคล้องกับชาวเอเชียเรื่องภัยพิบัติที่จะมาสู่โลกมนุษย์ และการเร่งพัฒนาจิตใจให้คนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อให้รอดพ้นจากภัยดังกล่าวและก้าวสู่สังคมใหม่ที่เป็นสังคมสันติสุขอย่างแท้จริง

 
              หิริโอตัปปะระดับโลก
 
 
              “นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา นี่คือหิริโอตัปปะ คือสำนึกเรื่องความละอายชั่วกลัวบาป  เป็นธรรมะคุ้มครองโลก ถ้าหากชาติตะวันตกที่เคยเป็นนักล่าอาณานิคมเกิดสำนึกละอายใจ เกิดหิริโอตัปปะ ขึ้นจริง อะไรจะเกิดขึ้น”
 
              ยอดมณี วัชรธรรม สมาชิกคณะธรรมยาตราและผู้เขียนหนังสือชื่อเปิดตำนานคนชุดขาวเขาพระวิหารมณฑลบูรพากล่าว ในทัศนะของนักการศาสนา  ความละอายชั่วกลัวบาปเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาจิตมนุษย์ซึ่งจะส่งให้สังคมดีขึ้น  

              “ หิริโอตัปปะ คือธรรมะคุ้มครองโลก หรือที่เรียกว่าเทวธรรม  คือธรรมที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นเทวดาหรือธรรมะเป็นโลกบาล”  ยอดมณีกล่าวว่าหากเกิดสำนึกระดับโลกขึ้นมาจากสิ่งที่ชาติตะวันตกได้กระทำต่อชาติในทวีปเอเชียและทาสผิวดำจากทวีปอัฟริกา  การค้าทาสในอดีตคือรอยแผลของประวัติศาสตร์และเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้  ยกเว้นแต่จะมีการยอมรับว่าในอดีตได้เกิดลัทธิมิจฉาทิฎฐิขึ้นบนโลกใบนี้จริง  และโลกกำลังเรียนรู้เพื่อก้าวพ้นจากอดีตที่ผิดพลาดสู่แนวทางที่ถูกต้องและเป็นสัมมาทิฎฐิ
 
              ช่องทางการสื่อสารต่างๆเพื่อสันติสุขปรากฏในอินเตอร์เนตและสังคมไซเบอร์มากกว่าสื่อทางทีวี  ดังจะเห็นว่าคลิปวีดีโอเพื่อสันติภาพใน You Tube มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ    ในขณะเดียวกันการแสวงหาคำตอบและหลักการต่างๆเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีท่าทีว่าจะแก้ปัญหาได้ถูกทาง   นักทฤษฎีฝ่ายการเมืองพยายามขวนขวายหาคำตอบการจัดการทางการเมืองโดยอ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องมีสถาบันทางการเมืองขึ้นมาเพื่อทำการศึกษา  ยกตัวอย่างเช่นข้อเสนอของ  Samuel P.Huntington ในหนังสือชื่อ Political Order in Changing Societies ที่กล่าวถึงการจัดระเบียบการเมืองในระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งนักทฤษฎีสันติปฏิวัติกลับวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพียงมิติการศึกษาที่มิได้สะท้อนปัญหาเบื้องลึกในจิตใจของสังคมมนุษย์เพื่อนำสู่การแก้ปัญหาที่แท้จริงของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของชาติที่มั่งคั่งและชาติยากจนภายใต้กติกาการต่อรองในปัจจุบันได้   ในที่สุดบทบาทการนำทางจิตวิญญาณผ่านผู้นำทางจิตวิญญาณจะเป็นตัวต่อการนำทางการเมืองอีกขั้นหนึ่ง  ดังเช่นการนำขององค์ดาไลลามะหรือแม้แต่พระสงฆ์เวียดนามในนิกายมหายานท่านอื่น เช่น ติช นัท ฮันห์ เป็นต้น ที่ต่างก็ได้รับการยอมรับอย่างสูงในโลกตะวันตก
 

 
              นักทฤษฎีฝ่ายสันติปฏิวัติกล่าวว่าการแสวงหาสัจธรรมในโลกตะวันตกเป็นปรากฏการณ์ที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวในประเทศไทยเรื่องเขาพระวิหารมณฑลบูรพาในนามของคณะธรรมยาตราชุดขาว   ซึ่งรัฐบาลไทยไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวมิใช่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างประเทศ   แต่เป็นการแสวงสัจธรรมและชำระประวัติศาสตร์ที่ชาติสยามในอดีตถูกยึดครองโดยชาติล่าอาณานิคมตะวันตก ไม่ต่างจากการชำระประวัติศาสตร์อเมริกาที่กระทำต่อชนเผ่าอินเดียนในทวีปอเมริกา  
 
              “ปัญหาลัทธิชาติอาณานิคมในอดีตในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดครองดินแดนแถบนี้เกิดขึ้นในส่วนอื่นของโลกด้วย แต่กงกำกงเกวียนปรากฏทิ้งช่วงกว่าร้อยปี “  ยอดมณี วัชรธรรมกล่าว  "ในวันประกาศอิสรภาพ ฝรั่งเศสกลับเลือกคืนดินแดนให้กัมพูชาและผิดสัญญากับชาติสยาม ในเรื่องสนธิสัญญาโตเกียวในปี ค.ศ.1941   ทำให้ชาวคณะธรรมยาตราต้องใช้เงื่อนไขสำคัญของการเคลื่อนไหวดังกล่าวเพื่อพูดความจริง “
 

 “สิ่งที่ปรากฏต่อชาติชนเผ่าทั้งหลาย และที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย จริงๆแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน  คือการทวงคืนจากชาติอาณานิคมคือฝรั่งเศส  และเป็นการคืนดินแดนมณฑลบูรพาคืนทั้งหมด  ไม่ใช่แค่ปราสาทและความเป็นมรดกโลกหรือไม่เป็น ตามที่เรียกร้องกันผิดๆ...สิ่งที่คณะธรรมยาตราเสนอก็ไม่ต่างจากที่อเมริกันอินเดียน หรือชนเผ่ามายาในทวีปอเมริกาใต้พูดถึง การกลับคืนสู่มาตุภูมิของเจ้าของเดิม” 
 
             
 
            แหล่งข่าวในคณะธรรมยาตรากล่าวแสดงทรรศนะว่าความรู้สึกละอายและสำนึกในบาปบุญคุณโทษของชาติตะวันตกนับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญมากต่อการชำระจิตใจมนุษย์ในสังคมลัทธิการใช้กำลังเข้าคุกคามเพื่อยึดครองทรัพยากรและกอบโกยผลประโยชน์สู่ความมั่งคั่งของชาติตนนั้น กำลังจะเป็นหน้าประวัติศาสตร์แห่งความละอายของมนุษยชาติในรอบกว่าร้อยปีที่ผ่านมาในที่สุด คือการใช้ธรรมข้อสำคัญของความละอายชั่วกลัวบาปมาคุ้มครองโลกได้สำเร็จจริง
 

               การผสมผสานของหลักคำสอน

              นักทฤษฎีฝ่ายสันติปฏิวัติกล่าวว่า  เกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นในหมู่ผู้ยึดในคำสอนทางศาสนาตนผู้ปรารถนาสันติภาพ  คือการปะกนกันของหลักคำสอนที่เข้าไปมีอิทธิพลต่อความเชื่อของผู้ใฝ่สันติภาพต่างศาสนา   เช่น ความเชื่อเรื่อง การกลับชาติมาเกิดใหม่ (rebirth, reincarnation)  กฎแห่งกรรม (Law of karma)   หลักคำสอนของพุทธศาสนาเริ่มเข้าไปมีอิทธิพลต่อวิธีคิดและการมองโลก ในสังคมตะวันตกอย่างมาก  จากบทบาทขององค์ดาไลลามะและการต่อสู้อย่างสันติต่อชาติจีน     นอกจากนี้แล้วหนังสือที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงของจิตแพทย์ชาวอเมริกันชื่อ Dr Brian Weiss เรื่องการรักษาคนไข้จนสามารถพิสูจน์ได้ว่าชาติภพมีจริงนั้นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของการยอมรับเรื่องชาติภพและกฎแห่งกรรม และการสะสมคุณงามความดีให้ตนเอง    มีเงื่อนไขสะสมหลายประการที่เป็นเหตุให้คำสอนของพุทธศาสนาได้ปรากฎเผยโฉมอย่างต่อเนื่องในสังคมอเมริกันเองบทบาทของพุทธศาสนาดังกล่าวกำลังสะท้อนให้เห็นว่าหลักคำสอนของศาสนาพุทธเริ่มขยับเข้าไปมีบทบาทในสังคมตะวันตกบนพื้นฐานของเหตุและผลอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา 

               “จะเห็นว่าศาสนาคริสต์ไม่เชื่อเรื่องภพชาติและการกลับมาเกิดใหม่เพื่อชดใช้กรรม  แต่นักเขียนบล็อกเกอร์กลุ่มนี้ กลับแสดงทัศนะเด่นชัดเรื่อง ชาติภพและการลงมาเกิดใหม่เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์  แต่เขายังพูดถึงพระเจ้าในทัศนะแบบเดิม คือผู้ส่งพวกเขาลงมาเพื่อทำหน้าที่ ”   นักทฤษฎีกล่าวว่าการนำหลักคำสอนของต่างศาสนาเข้าไปนั้นมีลักษณะโดดเด่นตรงที่เป็นการใช้อธิบายเพื่ออ้างอิงในเชิงเหตุและผลเพื่อประโยชน์สุขต่อสังคมมากกว่าการเข้าถึงอุดมการณ์เฉพาะตนตามความเชื่อของศาสนานั้น 

               “ จริงๆแล้วเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง  ที่สังคมจะหันมาแสดงจุดยืนต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับนี้ เพราะการหลอมรวมหลักคำสอนเพื่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เป็นไปเพื่อสังคม เพื่อพยุงให้สังคมดีขึ้น มิใช่ในลักษณะมุ่งหวังผลเฉพาะตน” นักการศาสนาชาวไทยท่านหนึ่งกล่าว 
  
  
                New Spiritual World Order VS New World Order 
  
“ HUMANISTIC ECONOMICS — THE TIME IS NOW! 
It is time to bring truth back into the world. This can only be done by removing the underlying cause for perpetrating the big lie of scarcity – fear and greed. As stated, fear based scarcity is a manufactured illusion. This scarcity condition must be reversed in order to benefit the many. This can be accomplished by creating a change in the course of economic history.” 

  
  " ถึงเวลาของะบบเศรษฐกิจแบบคุณธรรม!!
ถึงเวลาแล้วที่จะนำความจริงกลับมาสู่โลก สิ่งนี้กระทำได้หากสามารถกำจัดสิ่งแอบแฝงซ่อนเร้นด้วยการโกหกหลอกลวงอันมีฐานมาจากความกลัวและความละโมบโลภมาก    ความกลัวที่ว่า..มาจากความขาดแคลนยากไร้จึงทำให้เกิดภาพลวงตาของการผลิตขึ้นมา   สภาพความขาดแคลนดังกล่าวจะต้องถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่เป็นการทดแทน ซึ่งสามารถทำให้บรรลุมรรคผลได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เศรษฐกิจเสียใหม่  ”
               
                             

                นักเขียนบล็อกเกอร์เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหาหาโลกไว้ตามคำแปลดังกล่าว   ปรากฏการณ์ความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของชาติยักษ์ใหญ่ในอเมริกา  กำลังฟ้องชัดว่าชาติอาณานิคมในอดีตกำลังพ่ายแพ้ต่อลัทธิทุนนิยมที่ได้สะสมมากว่าร้อยปี ภายใต้ลัทธิประชาธิปไตยตามหลักคิดของการผลิตเสรีหรือlaissez-faire  ด้วยพื้นฐานระบอบประชาธิปไตยและระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม Liberalism  ชาติมหาอำนาจสร้างความมั่งคั่งไม่หยุดหย่อนและอยู่ระหว่างความพยายามจัดระเบียบโลกใหม่   ซึ่งปรากฏแต่ความล้มเหลวเห็นชัดในปัจจุบัน
 
             คำอธิบายเรื่องโลกาภิวัฒน์และการขยายขอบเขตทางการค้าเพื่อค้ากำไรอย่างไร้ขอบเขตกำลังพาเศรษฐกิจโลกถึงทางตัน    และพวกเขากำลังหาทางออกใหม่ให้กับสังคมโลกผ่านระบบคุณธรรม   ข้อเสนอของระบบเศรษฐกิจใหม่ผูกโยงกับความต้องการของมนุษย์เอง ระบบเศรษฐกิจใหม่ดังกล่าวที่เป็นข้อเสนอจึงเป็นเศรษฐกิจที่เกิดจากการกำหนดความต้องการที่แท้จริงของมนุษย์เองได้โดยปราศจากความโลภผ่านระบบคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม
           

   
   
  
  
   
 
 
 



Webboard is offline.