ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ 2 พ.ย. คณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาอธิปไตยดินแดนเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพานำโดย นายสมานศรีงามและสมาชิกประมาณ 20 คนได้เดินทางไปถึงบริเวณทางขึ้นอุทยาน เพื่ออ่านคำประกาศเอกราชชาวไทยเรื่องมณฑลบูรพาและการทวงคืนดินแดนจากชาติล่าอาณานิคมฝรั่งเศสเป็นสักขีพยานและได้รับการปฏิเสธจากนายทหารตัวแทนจากแม่ทัพภาค ๒ กองกำลังสุรนารีมิให้ผ่านด่านไปได้
รายงานข่าวระบุว่าสมาชิกธรรมยาตราได้ตัดสินใจให้ตัวแทน 4 คนนำโดยนายสมาน ศรีงามทำการอ่านคำประกาศเอกราชต่อหน้าเสนาธิการทหารเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงท่ามกลางแสงแดด หลังจากนั้นจึงได้มอบคำประกาศเอกราชให้แก่ผู้แทนกองทัพภาค 2 และในเวลาประมาณ 12.00 น. ได้ลงนั่งสมาธิกลางถนนเป็นเวลาสิบกว่านาที พร้อมแผ่เมตตาก่อนเดินทางต่อไปที่ที่ประชุมสมัชชาเกษตร๔ภาคที่ไร้ที่ทำกิน
เรากำลังปฏิบัติข้อเสนอให้ปรากฏเป็นจริงด้วยการ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา เพราะเราเคลื่อนด้วยพลังสันติ แหล่งข่าวในคณะธรรมยาตรากล่าว
คณะธรรมยาตราชุดขาวคือกลุ่มที่เสนอให้รัฐบาลไทยนำอนุสัญญาโตเกียวค.ศ. 1942 หรือในพ.ศ. 2484 มาใช้ในการทวงคืนดินแดนมณฑลบูรพาซึ่งหมายถึงดินแดนสามจังหวัดคือจังหวัดพระตะบอง จังหวัดพิบูลสงครามและจำปาศักดิ์ในอดีต ในขณะที่รัฐบาลไทย กระทรวงการต่างประเทศและนักวิชาการในประเทศต่างยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยข้อตกลงในสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส 1904-1907 เป็นหลักในการเจรจาว่าเป็นอนุสัญญาที่ถูกต้อง คณะธรรมยาตราได้นำเสนอเรื่องพื้นที่จำนวนไม่ต่ำกว่า 6.4 หมื่นตารางกิโลเมตรซึ่งหมายถึงพื้นที่ในจังหวัดพระตะบองและจังหวัดพิบูลสงครามทั้งหมดในประเทศกัมพูชา
เราเห็นเป็นปรากฏการณ์มาตลอดว่าทำไมประเทศเล็กๆอย่างเขมรจึงมีการเมืองที่เข้มแข็ง เพราะเขาเป็นรัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่เข้มแข็ง ทางฝั่งเขมรเขาคึกคักมาก รัฐบาลเขาหนุนประชาชนของเขาให้รุกขึ้นมาเพื่อเอาดินแดนคืน รัฐบาลเป็นฝ่ายนำด้วยซ้ำไป แต่รัฐบาลเราไม่ได้ทำอะไรเลย นายสมานกล่าว
ก่อนหน้านั้นคณะธรรมยาตราได้ทำการยื่นเอกสารเรียกร้องทวงคืนมณฑลบูรพาให้นายกฯฮุนเซนหลายครั้ง โดยได้ทำการยื่นให้กับนายกษิต ภิรมย์ในระหว่างการประชุมอาเซียนเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม เดือนที่ผ่านมา และได้รับการสนองตอบจากนายกษิตเป็นอย่างดีว่าจะเป็นผู้มอบให้กับนายกฯฮุนเซนด้วยตัวเอง
ขณะนี้มันก็ขมวดปมมาใกล้เต็มทีแล้ว เรื่องเอกราช เรื่องมณฑลบูรพา แต่ก่อนไม่มีใครเอาด้วยเลยเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ แหล่งข่าวในคณะธรรมยาตรากล่าว
คณะธรรมยาตราได้ยื่นจดหมายถึงนายกฯฮุนเซนครั้งล่าสุดในวันที่ 27 ตุลาคม ที่หน้าสถานทูตกัมพูชาเพื่อประกาศให้คนไทยสู้ด้วยเนื้อหาการเรียกร้องด้วยอนุสัญญาโตเกียว 1942 พร้อมกับได้ทำการเผาแบนเนอร์สนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส 1904-1907 ที่หน้าสถานทูตกัมพูชา พร้อมทั้งมอบพระพุทธรูปปางห้ามญาติให้แก่ตัวแทนสถานทูตเป็นผลสำเร็จต่อหน้าสมาชิกพันธมิตรประชาชนประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เดินทางไปเรียกร้องปราสาทพระวิหารในวันเดียวกัน ในวันเดียวกันสมาชิกธรรมยาตรานายวิชาญ ทับซ้อนก็ถูกจับกุมในข้อหาบุกรุกสถานทูตเมื่อเขาปีนต้นมะยมข้ามรั้วสถานทูตเข้าไปได้โดยมีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาทอดบันไดมารับ นายวิชาญ ทับซ้อนถูกจับกุมคุมขังเป็นเวลาหนึ่งคืนและได้ทำการฟ้องร้องเอาความกลับไปยังสถานทูตกัมพูชา โดยให้เหตุผลว่าการทอดบันไดให้ข้ามไปคือความจงใจของสถานทูตที่จะเร่งให้เขาติดบ่วงการกระทำผิด และมั่นใจว่าการเอาความให้จำคุกมาจากคำสั่งของนายกฯฮุนเซนอย่างแน่นอน
แหล่งข่าวจากคณะธรรมยาตรากล่าวว่าการรุกด้วยสนธิสัญญาโตเกียวทำให้เกิดปฏิกิริยาจากนักวิชาการไทย นักการทูตและนักเคลื่อนไหวต่างกัน ที่เห็นชัดกลุ่มที่พยายามเคลื่อนไหวเรื่องนี้คือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่พูดถึงผลประโยชน์ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร และแสดงความไม่พอใจที่คณะธรรมยาตราปรากฏตัวที่สถานทูตในวันเดียวกันกับพันธมิตรที่นำโดยนายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยและพลเรือเอกบรรณวิทย์ เก่งเรียน เมื่อปีที่แล้วนายวีระ สมความคิดได้กล่าวหาว่าคณะธรรมยาตราระหว่างการปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯที่มัฆวานว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่รับค่าจ้างมาเคลื่อนไหวในระหว่างที่คณะธรรมยาตราปักหลักอยู่ที่บริเวณผามออีแดงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 นายวีระได้นำฝูงชนพันธมิตรจำนวนหลายพันคนเพื่อขึ้นไปยังบริเวณปราสาทแต่ไม่สามารถพาผ่านด่านอุทยานไปยังผามออีแดงได้สำเร็จและยังเป็นเหตุให้เกิดการปะทะระหว่างพันธมิตรฯและม็อบชาวบ้านภูมิซรอล จนบาดเจ็บปรากฎเป็นข่าวดัง
รายงานข่าวจากประเทศกัมพูชาระบุว่าการเคลื่อนไหวของคณะธรรมยาตราคนชุดขาวส่งผลต่อปฏิกิริยาต่อนายกฯฮุนเซนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งที่เขาหลุดวาจาออกมาเรื่องการปฏิบัติรุนแรงต่อชาวไทยว่ากัมพูชาพร้อมจะสังหารทิ้งคนไทยทั้งทหารและพลเรือนที่เล็ดรอดเข้าไปในเขตพื้นที่ทับซ้อนเมื่อปลายเดือนกันยายน และเป็นเหตุให้คณะธรรมยาตรานำพระสงฆ์นานาชาติจากวัดตะล่อมเดินธรรมยาตราจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปมอบพระพุทธรูปปางห้ามญาติให้แก่นายกฯฮุนเซนที่หน้าสถานทูตกัมพูชาในวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา