พระมหาบุญถึง ชุตินฺธโร ผู้อำนวยการสถาบันธรรมะประชาธิปไตย ประธานสภาธรรมาธิปไตยแห่งชาติ เจ้าอาวาสวัดตะล่อมกล่าวว่า โครงการเข็มนำธรรมและการรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือกและสมุนไพรไทยได้เกิดจากความร่วมมือของผู้ชำนาญการหลายฝ่ายที่มีความเห็นตรงกันว่าวัดสมควรเป็นศูนย์กลางและเป็นที่พึ่งให้กับสังคมไทยได้ในยามวิกฤต จึงได้ทำการเปิดวัดสำหรับเป็นที่พึ่งพิงให้กับคนไทยที่เกิดความเจ็บป่วย และไม่มีเงินไปรับการรักษาจากแพทย์สมัยใหม่ โดยได้ประยุกต์ใช้ศาลาวัดเป็นที่รับรักษาโรค ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกิดความหวาดกลัวการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ไปทั่วประเทศ โดยทางวัดไม่ได้คิดค่าตอบแทนใดๆ ขึ้นอยู่กับผู้เจ็บป่วยต้องการทำบุญร่วมกับโครงการเป็นค่าเข็ม ค่าน้ำ ค่าไฟตามสมควร
รายงานข่าวแจ้งว่าเนื่องจากยอดของจำนวนผู้เข้ารับรักษาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนศาลาไม่เพียงพอ จึงได้มีกางเต็นท์เพิ่มขึ้นอีกสองเต็นท์ในบริเวณวัดเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น พระมหาบุญถึงกล่าวว่าปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาลไม่ได้จำกัดอยู่ที่ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่ง แต่ควรผสมผสานศาสตร์ทุกศาสตร์เข้าด้วยกัน การแพทย์แผนใหม่ที่เคยเป็นที่พึ่งยามเจ็บป่วยมิใช่ทางเลือกทางเดียวอีกต่อไป โดยคาดว่าการรักษาโรคและการใช้วัดเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่ความรู้จะทำให้ประชาชนพึ่งตัวเองได้และพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศน้อยลง
หมอเลิศ ไกยฝ่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาฝังเข็ม ในฐานะอาจารย์ผู้สืบทอดวิชาฝังเข็มหรือที่เรียกกันว่า หมอเทวดา ได้ระดมทีมหมอฝังเข็มซึ่งประกอบไปด้วยพระสงฆ์ แม่ชี และฆราวาสชายหญิงเข้าฝังเข็มที่วัดตะล่อมกล่าวว่า หมอเลิศกล่าวว่าได้ทำหน้าที่ฝึกคนให้เป็นหมอมาหลายปี ซึ่งจะมีวิธีการดำเนินงานไม่ต่างกันคือ หลังจากคนไข้มารับการรักษาแล้วก็จะได้ฝึกผู้ป่วยให้เป็นหมอต่อไปหลังจากนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ป่วยว่าพร้อมจะศึกษาหรือไม่
ศาสตร์นี้เป็นศาสตร์โบราณ รักษากันมานานในประเทศจีน เป็นพลังจักรวาลผ่านเข็มเข้าไปในร่างกายคนป่วย คนที่จะรักษาคนอื่นหาย จะต้องเป็นคนที่จิตใจดี หมอเลิศกล่าว
หมอเลิศ กล่าวว่าขณะนี้ได้มีคนไข้ที่เข้ามารับการรักษาที่ได้ผันมาเป็นนักศึกษาเรียนรู้การฝังเข็มแทนเพื่อสามารถนำไปใช้ฝังเข็มให้ตนเอง ครอบครัวและช่วยเหลือผู้อื่นได้ ซึ่งเป็นการใช้หลักการพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก ในระยะยาวจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงและพึ่งพิงรัฐน้อยลง
หมอเลิศ ไกยฝ่ายระหว่างการบรรยายเรื่องสรรพคุณการฝังเข็ม (ซ้าย)
ระหว่างปฏิบัติธรรมที่วัดตะล่อมในชุดขาวชูเข็มนำธรรม (ขวา) |
สมาน ศรีงามผู้ประสานงานโครงการเข็มนำธรรมกล่าวว่าขณะนี้กองทุนเข็มธรรมะประชาธิปไตยได้เริ่มต้นขึ้นแล้วโดยได้รับการบริจาคร่วมทุนครั้งแรกจากพระสงฆ์จากวัดปากน้ำ ภาษีจริญ ที่นอกจากจะเข้าร่วมรักษาแล้ว ยังได้นำเยาวชนปฏิบัติธรรมจำนวนหลายสิบคน มาเข้าร่วมเสวนาธรรมะที่วัดตะล่อมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย
นายสมานกล่าวว่า ขณะนี้พระสงฆ์เกิดความตื่นตัวเรื่องโครงการเข็มนำธรรมเนื่องจากสามารถทำให้วัดตะล่อมเป็นต้นแบบการบ่มเพาะวัฒนธรรมธรรมะประชาธิปไตยไปควบคู่กับการดูแลรักษา และทำให้พระสงฆ์มีความสนใจแลกเปลี่ยนกิจกรรมระหว่างวัดต่างๆ จึงได้จัดตั้งกองทุนหมอธรรมะประชาธิปไตยขึ้นมาสำหรับผู้สนใจศึกษา
กองทุนหมอธรรมะประชาธิปไตยทั้งหมด 99 กองทุน มีคนสมัครเรียนแล้ว 50 คน โครงการยังต้องการการระดมทุนเพิ่มเพื่อสนับสนุนกองทุนดังกล่าว นายสมานกล่าว
ธรรมะเป็นประโยชน์ต่อมหาชน ประชาธิปไตยเป็นประโยชน์ต่อปวงชน โครงการนี้จะทำให้เกิดการการปฏิบัติธรรมพื้นฐานคือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นการให้ต่อสังคม และได้ปฏิบัติหลักความเสมอภาค ภราดรภาพต่อประชาชน เพราะไม่ว่ารวยหรือจน ก็รับรักษาเท่ากันหมด นายสมานกล่าว
นายสมานกล่าวว่าวัดตะล่อมจะกลายเป็นวัดต้นแบบ หรือที่เรียกว่า Talom Model สร้างธรรมะประชาธิปไตยด้วยวิถีพุทธต่อไปในระยะยาว ซึ่งขณะนี้นอกจากการรักษาโรคด้วยการฝังเข็มแล้ว วัดตะล่อมยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกที่เป็นการบำบัดรักษาโรคและดูแลสุขภาพองค์รวมในระยะยาวเช่นการฝึกท่ารำชี่กงโดยมีผู้เชื่ยวชาญสอนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งยังได้เริ่มต้นนำสมุนไพรไทยมาจำหน่ายสำหรับแก้โรคหวัด 2009อีกด้วย ภายใต้โครงการมหัศจรรย์สมุนไพรไทยต้านมหันตภัยหวัด 2009 ภายใต้การนำของนายแพทย์ บุญเทียม เขมาภิรัตน์ผู้ศึกษาเรื่องสมุนไพรไทยมาอย่างดี
ในช่วงสุดสัปดาห์ยอดคนเข้ารับการบำบัดรักษามีจำนวนเกิน 200 คนภายในระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือน ในขณะนี้ผู้เข้ารับการรักษาโรคมิใช่มีแต่เพียงชาวพุทธเท่านั้น มีทั้งชาวคริสต์ อิสลาม และชาวไทยซิกข์ อีกด้วย
การฝังเข็มโดยแม่ชีเพื่อรักษาผู้ป่วยที่เป้นแม่ชีด้วยกัน |
|