เกี่ยวกับเรา
ติดต่อสอบถาม
แผนที่และการเดินทาง
ศูนย์การเรียนรู้
ท๊อปแลนด์ฟาร์มฯ
รีสอร์ท
ศูนย์ขายผลิตภัณฑ์
บรรยากาศในคอกกวาง
สินค้าท๊อปแลนด์ฟาร์มฯ
เขากวางอ่อน
ซุปกวางสกัด 100%
สมัครรับจดหมายข่าว
Email / อีเมล์

สมัครสมาชิก
   
“รูซ่า” ซุปเขากวางสกัด ขุดภูมิปัญญาจากโหลยาดอง ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ซุปสกัด กำจัดกลิ่น ละทิ้งแอลกอฮอล์ อาศัยช่องทางความเชื่อชาวจีนสู่การยอมรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากคนไทย ตั้งเป้าไกลไปอินเตอร์

การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิปัญญาพื้นบ้านไต่เต้าสู่ธุรกิจระดับชาติไม่ใช่เส้นทางที่มาได้โดยง่าย แต่ต้องอาศัยการสร้างฐานความเชื่อมั่นเป็นต้นทุนให้ก้าวต่อไปข้างหน้า

โดยเฉพาะผลผลิตจากป่ามาแปรรูปให้เกิดมูลค่าเพิ่มของสินค้า ย่อมเป็นการยากที่จะทำให้เกิดกระแสการยอมรับจากผู้บริโภค อันมีพื้นฐานทัศนคติสุดโต่งเหนี่ยวนำ ระหว่างอนุรักษ์สุดขั้วกับชวนเชื่อสุดขีดด้านสรรพคุณอันทรงพลัง

เมื่อกลไกทางเศรษฐกิจเอื้อต่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ ทำให้กวางพื้นเมืองที่มีถิ่นกำเนิดบนหมู่เกาะชวา และเริ่มนำไปเลี้ยงในหมู่เกาะนิวแคลิโดเนีย กระทั่งแพร่หลายในทวีปออสเตรเลีย ต้นทางสายพันธุ์รูซ่า ที่สร้างกิจการฟาร์มกวางครบวงจรให้กับคนไทยผู้ใช้แรงงานเช่น นายวันชัย ศิริธรรม อดีตคน เลี้ยงกวางในเมืองจีน

กวางสายพันธุ์รูซ่า (Rusa Deer) จัดอยู่ในกลุ่มกวางนำเข้า ที่ไม่เข้าข่ายการคุ้มครอง ห้ามฆ่า ห้ามล่า ห้ามค้าขาย เช่นเดียวกับ กวางซิการ์ และกวางแดง ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มกวางพื้นเมืองในประเทศไทย อาทิ กวางป่า ละอง ละมั่ง อีเก้ง จัดอยู่ในสัตว์ประเภทสงวนและคุ้มครอง โดยจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมป่าไม้ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์

บังเอิญ หรือ โชคช่วย

องค์ความรู้จากการเลี้ยงกวางมานานกว่า 10 ปี นับจากประสบการณ์เลี้ยงกวางตามสวนสัตว์ในประเทศจีนและประเทศไทย เมื่อมาทำฟาร์มเล็กๆ ที่จังหวัดโคราช ความคุ้นชินจึงเลี้ยงกวางเพื่อสะสมไว้ประดับไร่ แต่ปรากฏว่ากวางแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้น แม้จะมีปริมาณไม่มากนัก แต่มีคนเพียรมาติดต่อขอซื้ออยู่เรื่อยๆ ด้วยใจอยากอนุรักษ์เอาไว้ การปั่นราคาให้สูง ถึงตัวละ 40,000-50,000 บาท หวังว่าคงไม่มีใครกล้าซื้อ

สิ่งที่คิดผิดคาดเมื่อผู้ซื้อไม่ต่อราคาที่ตั้งไว้ไปนับ 10 ตัว เมื่อไม่มีทางเลี่ยงอื่นก็ต้องขาย จึงทำให้เกิดแนวคิดว่า “กวาง” น่าจะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีอนาคต

กิจการเลี้ยงกวางขายจึงเริ่มต้นเป็นจริงจังเมื่อเห็นว่าตลาดมีความต้องการสูง ทุนก้อนแรกจึงเริ่มจากระดมเงินกู้ผ่านเครือญาติ เพื่อซื้อกวางจากกรมปศุสัตว์มาเพิ่ม 50 ตัว และรับซื้อจากบุคคลทั่วไป สะสมเพิ่มจำนวนมากขึ้น สนนราคาต้นทุนตกตัวละหมื่นกว่าบาท เมื่อเลี้ยงโตได้ประมาณ 1 ปีเศษจำหน่ายได้ในราคาที่ตั้งเป้าไว้

ก้าวข้าม บน ความกล้า

การกล้าตัดสินใจ กล้าทุ่มทุนสร้าง พร้อมยอมรับความเสี่ยงเป็นอุปนิสัยหนึ่งที่นักลงทุนต้องมีทุนรอนที่ได้กำไรมาก้อนหนึ่งทำให้นายวันชัย ศิริธรรม ตัดสินใจที่จะ แสวงหาองค์ความรู้จากแหล่งอุตสาหกรรมปศุสัตว์ต้นแบบที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อย่างจริงจัง ทั้งที่มีอุปสรรคด้านภาษาเป็นตัวกำบังการเรียนรู้

ทางออกของปัญหา คือ เข้าหาผู้รู้ในท้องที่ ด้วยการเข้าพบทูตพาณิชย์ เพื่อประสานงานเช่าเครื่องบินเหมาลำดูฟาร์มกวางทั่วออสเตรเลีย สิ่งที่ได้กลับมาคือประสบการณ์ พร้อมกับกวาง 700 ตัว เพื่อส่งขายให้กลุ่มเกษตรกรปศุสัตว์ในเมืองไทยนำไปเลี้ยง โดยสร้างความเชื่อถือด้วยการรับซื้อคืนทั้งป้องกันคู่แข่งที่จะเกิดขึ้นไปในตัว ขณะเดียวกันตระเวนหาตลาดส่งผลผลิตจากกวาง เส้นทางกระโดดข้ามจากสถานะผู้เลี้ยงสู่ผู้ค้า

กิจการเพาะเลี้ยงกวาง ไม่ได้เลี้ยงเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่กวางถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ที่สร้างมูลค่าให้กับเกษตรกรในปัจจุบัน ที่จำหน่ายได้ทั้งเนื้อกวางและเขากวางอ่อนซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด

เขากวางเพศผู้จะเริ่มนิยมตัดเมื่อมีอายุได้ 2 ปี น้ำหนักของเขาประมาณ 1-2 กิโลกรัม ตัดได้ปีละครั้ง โดยเลือกตัดเขาที่ออกมาประมาณ 45-50 วัน สามารถตัดได้นานถึง 15-20 ปีต่อกวาง 1 ตัว และน้ำหนักของเขาจะมากขึ้นทุกปีด้วย สูงที่สุดในประเทศไทยเกษตรกรตัดได้ที่น้ำหนักถึง 5 กิโลกรัม ราคาขาย เขากวางอ่อนตัดสดกิโลกรัมละ 8,000-10,000 บาท เขาอบแห้งกิโลกรัมละ 5,000-20,000 บาท

ตามความเชื่อของคนหลายๆ รุ่น กล่าว ไว้ว่า สรรพคุณของเขากวางอ่อน เมื่อนำมาดองกับเหล้า จะเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงร่างกายและยังสามารถเพิ่มพลังทางเพศได้ หรือเรียกว่ายาโป๊ว แต่การที่จะล่ากวางป่ามาเพื่อจะนำมาแปรรูปเป็นสินค้าจำหน่ายย่อมละเมิดต่อกฎหมาย

ธุรกิจขยายพันธุ์กวางสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากฟาร์มกวางเล็กๆ ที่ต้องเช่าที่ดิน ต่อยอดธุรกิจด้วยการซื้อที่ดิน ขยายกิจการที่มีอยู่ให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้ง จัดสวนหย่อม สร้างบ่อน้ำแร่ ธารน้ำตก สวนผลไม้ บ้านพักรับรอง ห้องประชุม เพื่อรองรับผู้ที่มาเยี่ยมชม สร้างความประทับใจ ผู้มาเยือนด้วยอาหารจากเนื้อกวาง และยาดองเขากวางอ่อนสูตรพิเศษจากเมืองจีน ซึ่งสร้างมูลค่าให้ธุรกิจด้วยการจัดจำหน่ายในราคาที่สูง โหลละครึ่งแสน ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักธุรกิจและผู้สูงอายุ

จากโหลยาดองสู่ซุปสกัด

ภูมิปัญญายุคโบราณพัฒนาควบคู่กับ เทคโนโลยีสมัยใหม่สร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์ ด้วยการสกัดสารจากเขากวางอ่อนมาทำซุป เพื่อบำรุงสุขภาพ

เมื่อยาดองเขากวางอ่อนประสบความ สำเร็จในระดับหนึ่ง แผนการขยายธุรกิจจากผลิตภัณฑ์กวางให้มีวงกว้างขึ้น ประกอบกับได้รับคำแนะนำจากผู้บริโภค ซึ่งบางคนดื่ม แอลกอฮอล์ไม่ได้ ควรปรับเปลี่ยนมาทำยาบำรุงแทน การทำซุปเขากวางอ่อนจึงเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ด้วยหม้อต้มสตรีม ซึ่งทำ การทดลองอยู่หลายครั้งก็ได้นำซุปออกมา แต่ติดขัดที่ตัวผลิตภัณฑ์อยู่ได้ไม่นาน

นายต่อศักดิ์ วัฒนวิจารณ์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการผลิตซุปไก่สกัด กล่าวว่า ได้มาเป็นผู้ดูแลการผลิตซุปเขากวางสกัด โดยการไปจ้างโรงงานผลิตซุปไก่สกัด ที่ได้มาตรฐาน GMP ผลิตซุปเขากวางสกัด ใช้กระบวนการที่ทันสมัย ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยป้อนวัตถุดิบเข้าไปยังโรงงาน ซึ่งผลใน ระยะแรก รสชาติยังออกมาไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งกว่าจะได้รสชาติที่เข้าที่ หมดกวางไปถึง 100 ตัว กว่าจะได้ซุปเขากวางสกัด 100 เปอร์เซ็นต์ ตรารูซ่า ที่มีรสชาติกลมกล่อม ดื่มง่าย ไม่มีกลิ่นคาว

กระบวนการผลิตต้องผ่านหลายขั้นตอน ตั้งแต่ นำเนื้อกวางที่ชำแหละ แยกหนังแยกเครื่องใน นำมาบดรวมกันทั้งเนื้อและกระดูก พร้อมด้วยเขากวางอ่อนตามสัดส่วน ที่กำหนด ผ่านกระบวนการต้มด้วยระบบสตรีม สุญญากาศ ของโรงงานนานประมาณ 4-5 ชั่วโมง แยกกากกับน้ำซุปออกจากกัน สกัดเอาไขมันออก และขั้นตอนสุดท้าย สเตอริไลซ์ เพื่อฆ่าเชื้อโรค ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาในการผลิตที่นานกว่า 20 ชั่วโมง และได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากองค์การอาหารและยา (อย.) ถึงความ ปลอดภัยและสรรพคุณที่มีต่อผู้บริโภค

“ชาวจีน” ต้นทางความเชื่อศาสตร์โบราณ

สรรพคุณของเขากวางอ่อน ชาวเอเชีย ชื่นชอบกันมาก โดยเฉพาะ เกาหลี ไต้หวัน จีน เชื่อกันว่า รับประทานเป็นยาอายุวัฒนะบำรุงร่างกาย ป้องกันโรคหวัด โรคโลหิตจาง ข้ออักเสบ อัมพาต และโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น ดังนั้นจึงเน้นตลาดต่างประเทศร้อยละ 80 เป็นหลัก ในประเทศร้อยละ 20 โดยพุ่งเป้าไปที่ประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร และประเทศที่มี กลุ่มคนจีนอยู่เป็นจำนวนมาก

ด้วยความเชื่อที่ว่าถ้าค้าขายกับคนจีน ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้หมด เพราะว่าจีนมีกำลังซื้อ และมีประชากรจำนวนมาก ยิ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพด้วยแล้ว ไม่ว่าจะแพงแสนแพงขนาดไหนก็ลงทุนซื้อหามากิน

ส่วนประเทศในแถบยุโรป อยู่ในขั้นตอนคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายและข้อตกลงเงื่อนไข ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในขั้นตรวจวัดคุณภาพเพื่อออกหนังสือรับรองจาก อย. สหรัฐอเมริกา (FDA) ในประเทศไทยกำลังสรรหาตัวแทนจำหน่าย ซึ่งขณะนี้ขยายกำลังการผลิตจากการสร้างโรงงาน จากเดิม 200,000 ขวด ต่อเดือน เป็น 3,000,000 ขวด ในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพื่อรองรับยอดการสั่งจองที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

โดย business thai [14-7-2005]